19 กันยายน 2567…ธุรกิจแห่งอนาคต เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่, Smart Micro Grid,Heat Battery ,นวัตกรรมการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Tandem Perovskite
ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า เมื่อมองสถานการณ์โลกปัจจุบันและทิศทางอนาคต ในระยะ 2-5 ปี จะมีความผันผวนมากขึ้น ทั้งความท้าทายจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมทั้งกฎเกณฑ์และโอกาสใหม่ ๆ จากเส้นทางที่ต้องไปรักษ์โลก
“ทุกธุรกิจของเอสซีจีจึงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมลดคาร์บอนไดออกไซด์ ตามแนวทาง Inclusive Green Growth เพื่อสร้างความสามารถการแข่งขันระยะยาว การ คว้าโอกาสจากนโยบายหนุนนวัตกรรมกรีน ดึงเทคโนโลยียกระดับการอยู่อาศัย สร้างชีวิตกรีน&สมาร์ท ขยายธุรกิจพลังงานสะอาดสู่อาเซียน”
การลงทุนกับ 4 ธุรกิจ New S-Curve ประกอบด้วย
1,เดินหน้าขยายสู่อาเซียน เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มุ่งสู่เป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 3,500 เมกะวัตต์ในปี 2573 ด้วยจุดแข็งด้านนวัตกรรมและโซลูชันพลังงานสะอาดครบวงจรระดับโลก ทั้งระบบบริหารจัดการ การผลิต การจัดเก็บ (Energy Storage System)
2.+3.จำหน่ายไฟฟ้าจากแพลตฟอร์มพลังงานสะอาด ‘Smart Micro Grid’ ตลอดจน ‘แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานความร้อนจากพลังงานสะอาด (Heat Battery)’ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างยูนิตแรกของโลกสำหรับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ที่โรงงานปูนซีเมนต์ เอสซีจี จ.สระบุรี นอกจากนี้ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
4.การลงทุนในบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ‘นวัตกรรมการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Tandem Perovskite’ โดยบริษัทนี้มีจำนวนสิทธิบัตรอันดับต้น ๆ ของโลก เพื่อช่วยผลิตเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 30 ทำให้ภาคอุตสาหกรรมเข้าถึงพลังงานสะอาดได้สะดวกยิ่งขึ้น