18 พฤศจิกายน 2567…กรรมาธิการเนเธอร์แลนด์ให้คํามั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040 โดยจะไม่เปลี่ยนเดดไลน์เรื่องการเลิกใช้รถยนต์เบนซินและดีเซล ขณะที่ Wopke Hoekstra กรรมาธิการด้านสภาพอากาศและภาษี กําลังจะดํารงตําแหน่งเต็มวาระในคณะผู้บริหาร
Hoekstra ได้รับการแต่งตั้งเมื่อปีที่แล้วหลังการลงจากตำแหน่งของ Frans Timmermans เพื่อนร่วมชาติ และ EU green deal director ของสหภาพยุโรป
หลังจากมุ่งมั่นเสนอเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ 90% ภายในปี 2040 เมื่อเทียบกับพื้นฐานของสหภาพยุโรปในปี 1990 Hoekstra ถูกกดดันมากกว่าหนึ่งครั้ง ให้ระบุชัดว่าจะเสนอเมื่อใด เขาบอกว่าสิ่งที่ทำคือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า การสื่อสารใน 100 วันแรกเกี่ยวกับข้อตกลงอุตสาหกรรมสะอาด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% สอดคล้องกัน
เช่นเดียวกับประเด็นกับคณะกรรมการขนส่งที่กําลังจะมาถึง Hoekstra ยังมุ่งมั่นลดการปล่อย Co2 สําหรับรถยนต์ใหม่ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2035 ซึ่งถือเป็นการห้ามทั้งรถใช้เบนซินและดีเซล
แม้มีการคุยเรื่องนี้ในบรัสเซลส์เมื่อไม่นานมานี้ โดยผู้ผลิตรถยนต์เตือนว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ข้อกำหนดเรื่อง Co2 ในปีหน้า ขณะที่ Hoekstra ตั้งคําถามว่า อุตสาหกรรมต้องการให้ใช้เป้าหมายปี 2023 หรือของปี 2035 เพราะปี 2020,2021 สถานการณ์ก็เป็นแบบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่ง คือ Hoekstra หวังให้ข้อเสนอของเขารวมเรื่องภาษี ซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งในสามของการพิจารณา มีการพิจารณาเรื่องการเก็บภาษีน้ํามันเชื้อเพลิงการบิน และการเดินทางทางอากาศ เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ เช่น การขนส่งทางถนน และทางรถไฟ โดยกล่าวว่า เขาเปิดกว้างที่จะเรียกประชุม “แนวร่วมที่เต็มใจ” เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้
“นี่เป็นขอบเขตของประเทศสมาชิก ดังนั้นพวกเขาจะต้องเห็นด้วย” Hoekstra กล่าว และเสริมว่า “ผมสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้”
Hoekstra เป็นผู้นําทีมเจรจาของสหภาพยุโรปในการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ COP29 ที่บากู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน ให้ข้อมูลว่า คิดจากการปล่อยมลพิษทั่วโลก เนเธอร์แลนด์ มีสัดส่วนเพียง 6% แต่ต้องแน่ใจว่าอีก 94% ได้รับการแก้ไขด้วยเช่นกัน
“ดังนั้น เราจึงต้องแน่วแน่มากขึ้นเกี่ยวกับความคาดหวังที่มีต่อส่วนที่เหลือของโลก… และเป็นเรื่องยุติธรรมที่จะของบเพิ่มเติมจากจีน สหรัฐฯ และผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่อื่น ๆ” เขากล่าว และเพิ่มอินเดียในแถลงการณ์ภายหลังสงครามในยูเครนและฉนวนกาซา ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการเลือกตั้งในสหรัฐ ล้วนกระตุ้นให้เกิดความกลัวว่า ความพยายามระดับโลกที่จะหยุดยั้งปัญหาภาวะโลกเดือดจะชะงักยาวนาน
“แน่นอนว่าสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์น่ากลัว จะส่งผลกระทบต่อ COP 29 และการทูตเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ แต่นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัวให้ไม่เกิดการไม่ลงมือทำ”
Anja Arndt สมาชิกสภานิติบัญญัติ ใช้เวลาที่ได้รับมอบหมายในฐานะผู้ประสานงานนโยบายสิ่งแวดล้อมจากพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (Alternative für Deutschland, AfD) พรรคการเมืองฝ่ายขวา โต้แย้งว่า อากาศมีไนโตรเจน 78% ออกซิเจน 21% และคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 0.04% ความพยายามของสหภาพยุโรปที่ไล่ตามเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จะเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า
Hoekstra กล่าวกับสมาชิกสภานิติบัญญัติชาวเยอรมัน ซึ่งตามด้วยเสียงปรบมือกึกก้องว่า
“เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับฟัง คุยกับนักวิทยาศาสตร์เก่งที่สุดในโลก และด้วยความเคารพ นั่นจะเป็นคําเชิญของผมถึงคุณด้วย ความจริงที่โหดร้ายคือยุโรปกําลังร้อนขึ้นเร็วเป็นสองเท่า เป็นค่าเฉลี่ยของโลก”Hoekstra เสริม
Sven Harmeling จาก Climate Action Network (CAN) Europe กล่าวว่า ขณะยินดีกับความทุ่มเทของ Hoekstra – CAN หวังว่าประเทศสมาชิกจะมีความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งขึ้น รับผิดชอบเรื่องการส่งมอบแผนสภาพภูมิอากาศ และพลังงานแห่งชาติที่ตั้งเป้าสูงตามข้อตกลงปารีส
CAN Europe เป็นหนึ่งในกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมาธิการยุโรป โดยเรียกร้องให้ดําเนินการกับประเทศสมาชิกที่มีแผนสภาพภูมิอากาศและพลังงานแห่งชาติที่พวกเขาอ้างว่าไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของสหภาพยุโรป ทั้งนี้ 13 จาก 27 ประเทศสมาชิกยังไม่ได้ส่งร่างสุดท้าย แม้เดดไลน์ทางกฎหมายผ่านไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน
ที่มา