20 พฤศจิกายน 2567…นับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจปิโตรเคมีในภูมิภาค โครงการนี้จะช่วยให้โรงงาน LSP (Long Son Petrochemicals) สามารถใช้วัตถุดิบก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกา โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบ ทำให้การผลิตมีความคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2570
ศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC ระบุว่า “การพัฒนาระบบจัดการก๊าซอีเทนที่ลงทุนไปในครั้งนี้ เป็นการสร้างศักยภาพการผลิตให้กับโรงงาน LSP โดยการใช้ถังเก็บที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิ -90 องศาเซลเซียส เพื่อรองรับการนำเข้าวัตถุดิบในปริมาณที่มากขึ้น นอกจากนี้ โรงงานยังสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้หลากหลาย เช่น ก๊าซโพรเพนและแนฟทา ทำให้การผลิตมีความยืดหยุ่นและประหยัดต้นทุนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาด”
นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนกันยายน 2567 โรงงาน LSP ได้ผลิตและจำหน่ายพอลิเมอร์คุณภาพสูงสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศเวียดนามและส่งออกไปยังต่างประเทศ ได้มากกว่า 500,000 ตัน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่ดีเยี่ยมของโรงงาน โดยผลิตภัณฑ์จาก LSP ได้รับการยอมรับในคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศเวียดนามและส่งออกไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศในกลุ่มอาเซียน
ในช่วงที่ธุรกิจปิโตรเคมีกำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจโลก SCGC ได้วางแผนบริหารจัดการการผลิตอย่างรอบคอบ
“SCGC มีการประเมินสถานการณ์ตลาดและการบริหารการผลิตให้เหมาะสม โดยในช่วงที่ราคาและความต้องการวัตถุดิบผันผวน เราได้เลือกหยุดการผลิตที่โรงงาน LSP ชั่วคราวเพื่อควบคุมต้นทุน และใช้เวลาในการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรและกระบวนการผลิต เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฟื้นตัวของตลาดในอนาคต”