NEXT GEN

หาดทิพย์ชูมาตรฐานระดับโลก ลงทุนที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตภาคใต้

24 ธันวาคม 2567…บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดเครื่องดื่มในภาคใต้ ประกาศความสำเร็จในการพัฒนากระบวนการผลิตที่มุ่งเน้นความยั่งยืน โดยเปิดสายการผลิตขวดแก้วใหม่ที่โรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

โรงงานพุนพิน
มาตรฐานระดับโลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โรงงานพุนพิน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 315 ไร่ มีกำลังการผลิตที่รองรับการเติบโตของธุรกิจและให้บริการในภาคใต้ตอนบน โดยสายการผลิตขวดแก้วใหม่สามารถผลิตขวดได้สูงสุดถึง 800 ขวดต่อนาที รองรับทั้งขวดแก้วชนิดคืนขวดและไม่คืนขวด รวมถึงการออกแบบลังบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยป้องกันการกระแทก ทำให้ขวดแก้วใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

โรงงานยังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มากกว่า 9,000 แผง ซึ่งช่วยผลิตพลังงานทดแทนได้ถึง 19% ของพลังงานทั้งหมด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 28% ภายในปี 2568

 

นวัตกรรมขวดแก้ว มีขายเฉพาะภาคใต้ ซึ่งการผลิตบางส่วนในโรงงานใช้พลังงานไฟฟ้ามาจากโซล่าร์ดังกล่าว

 

การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
ลดการใช้น้ำและหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่

โรงงานพุนพินมุ่งเน้นการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต โดยตั้งเป้าลดการใช้น้ำจาก 1.54 ลิตรต่อหน่วยการผลิต เหลือ 1.39 ลิตรต่อหน่วยการผลิตภายในปี 2573 ผ่านโครงการสำคัญ เช่น

-การปรับขนาดหัวฉีดล้างขวดแก้ว เพื่อลดการใช้น้ำในกระบวนการล้าง
-การติดตั้งเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบแผ่น ที่ช่วยลดการใช้น้ำในการทำความเย็น
-โครงการ UF Recover Backwash ที่ใช้ไส้กรอง Ultrafiltration เพื่อหมุนเวียนน้ำสะอาดกลับมาใช้ใหม่ ลดปริมาณการใช้น้ำได้ถึง 44,513 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
-โรงงานยังติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อปรับเสถียรบนพื้นที่ 26 ไร่ โดยใช้พลังงานต่ำและแบคทีเรียที่ไม่ต้องการอากาศ (Anaerobic) ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ รองรับน้ำเสียได้เพียงพอกับกำลังการผลิตของโรงงาน และน้ำที่ผ่านการบำบัดยังมีคุณภาพตามมาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม

 

ผลกระทบเชิงบวก
ต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

 

จอห์น เบเนเดตตี รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส – ซัพพลายเชน ระบุว่า “การลงทุนสายการผลิตขวดแก้วใหม่และการใช้บรรจุภัณฑ์ rPET ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ เรามุ่งมั่นยกระดับซัพพลายเชนที่ยั่งยืนเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ พร้อมสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น”

ในปี 2567 หาดทิพย์สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ได้ถึง 911 ตัน และลดน้ำหนักอะลูมิเนียมในกระป๋องลง 404 ตัน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 4,670 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

 

จอห์น เบเนเดตตี และ นันทิวัต ธรรมหทัย

 

ขยายศักยภาพบรรจุภัณฑ์ rPET
สู่ Circular Economy

 

นันทิวัต ธรรมหทัย รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ – องค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)หาดทิพย์กำลังศึกษาความร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่ภาคใต้เพื่อพัฒนาการจัดเก็บและรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ PET ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลแบบครบวงจร (Full Circularity) โดยเน้นการใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิล (rPET) ที่ผลิตในพื้นที่ มากกว่าการนำเข้า โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มจากโครงการนำร่องในพื้นที่ ก่อนขยายสู่บรรจุภัณฑ์อื่นในอนาคต

 

การลงทุนที่ยั่งยืน
เพื่ออนาคตของภาคใต้

 

หาดทิพย์ลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาทในสายการผลิตขวดแก้วใหม่และพลังงานสะอาด พร้อมพัฒนาการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในองค์กรและผลิตภัณฑ์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในความพยายามสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน หาดทิพย์ยังคงเดินหน้าพัฒนาชุมชนและส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อให้ภาคใต้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้ จะเดินหน้าลงทุน 3,500 ล้านบาทเพื่อยกระดับกระบวนการผลิตในโรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมุ่งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission) ตลอดห่วงโซ่ลง 25% ภายในปี 2030 และเข้าสู่ Net Zero Emission ภายในปี 2050

 

-การลงทุนเพื่อประสิทธิภาพและพลังงานสะอาด
ในปี 2567 หาดทิพย์ใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาทสำหรับการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตสินค้าและบรรจุภัณฑ์ พร้อมติดตั้งโซลาร์เซลล์กว่า 9,000 แผง ทั้งแบบโซลาร์รูฟและโซลาร์โฟลทติ้ง ส่งผลให้โรงงานมีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนถึง 19% และช่วยลดคาร์บอนได้กว่า 3,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Dashboard ดิจิทัลเพื่อติดตามและประเมินผลการลดพลังงานและการปล่อยคาร์บอนได้แบบเรียลไทม์

-แผนการลงทุนปี 2568
ในปีหน้าจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอีก 490 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการสร้างคลังสินค้าใหม่ 300 ล้านบาท และบ้านพักพนักงานแบบ Eco-friendly Design มูลค่า 190 ล้านบาท พร้อมขยายการติดตั้งโซลาร์เซลล์อีก 3,000 แผง ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 28% และลดคาร์บอนเพิ่มอีก 2,000 ตันต่อปี

-นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ลดคาร์บอน
ในด้านบรรจุภัณฑ์ หาดทิพย์ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักฝาขวดพลาสติกลง 0.64 กรัม และหลอดพรีฟอร์มลง 1.11 กรัม ทำให้ลดการปล่อยคาร์บอนได้ 2,000 ตันต่อปี ถือเป็นโรงงานแรกในเอเชียที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ นอกจากนี้ยังลดการใช้วัสดุ PET, HDPE และอะลูมิเนียมในบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินท์จากการใช้วัตถุดิบได้เพิ่มขึ้นถึง 8,000 ตันต่อปีภายในสิ้นปี 2568

การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหาดทิพย์ในการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และตอบสนองต่อวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม

 

You Might Also Like