NEXT GEN

No hops, no beer 🍺 ❌ 🌴 Ekonoke สตาร์ทอัพเผยโฉมใหม่ “ปลูกฮ็อพในร่ม” เพื่อ “การผลิตเบียร์” สู้ภาวะโลกเดือด

15-16 มกราคม 2568…Ekonoke กําลังเพาะปลูกฮ็อพในร่ม ทั้งสามารถปกป้อง และปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตเบียร์ ผ่านการจัดหาฮ็อพคุณภาพสูงที่ปรับแต่งได้อย่างยั่งยืน และเชื่อถือได้ตลอดทั้งปี

เบื้องหลังเบียร์ทุกแก้วคือฮ็อพ ซึ่งเป็นดอกตูมสีเขียวขนาดเล็กที่ให้ความขมและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เหมือนพืชผลหลายชนิด เช่น โกโก้ กาแฟ และไวน์ เป็นเรื่องน่าเศร้าที่อนาคตของฮ็อพถูกคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

สภาพอากาศที่ผิดปกติ และการเก็บเกี่ยวที่คาดเดาไม่ได้ ช่วงปี 2021-2050 แสดงให้เห็นว่าผลผลิตฮ็อพลดลงถึง 18.4% เมื่อเทียบกับปี 1989-2018 ในอุตสาหกรรมที่ความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสําคัญ ความไม่แน่นอนนี้สร้างปัญหาให้กับผู้ผลิตเบียร์และผู้บริโภค

 

ที่มา คลิกภาพ

Ekonoke เริ่มต้นขึ้นในปี 2018 เมื่อ Antonio Rojas และ Javier Ramiro ทดลองปลูกไมโครกรีนสําหรับร้านอาหาร ในขณะที่ Inés Sagrario และ Ana Saez มุ่งเน้นไปที่สวนแนวตั้งสําหรับผักสลัด เส้นทางของผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสี่คนได้มาบรรจบกันในอีเว้นท์เครื่องดื่มในมาดริด ซึ่งจัดโดย Eatable Adventures จุดประกายความร่วมมือ

Ekonoke เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการเกษตรของสเปน ที่กําลังจินตนาการถึงวิธีการปลูกฮ็อพ ด้วยการปลูกฮ็อพในร่ม พวกเขากําลังมอบชีวิตใหม่ให้กับทั้งผู้ผลิตเบียร์และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกจะสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยไม่สร้างมลพิษต่อโลก

ปี 2019 พวกเขาเปิดตัว Ekonoke เริ่มแรกเน้นลดขยะจากการผลิตอาหารในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อ COVID-19 ส่งผลให้อุตสาหกรรมร้านอาหารส่วนใหญ่ปิดตัวลงในปี 2020 ทีมงานถูกกดดันให้กลับมาสนใจเรื่องนี้อีกครั้ง และพบว่า ความท้าทายใหญ่ที่สุด คือ ฮ็อพ

“ตอนแรก เราเริ่มมองหาพืชผลที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่แล้ว จากนั้นก็สรุปมาที่ฮ็อพ เมื่อเรานำเสนอแนวคิดในการปลูกฮ็อพในร่มครั้งแรก ผู้ผลิตเบียร์หลายคนที่เราพูดคุยด้วยในสเปนกังขามาก พวกเขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรบอกผู้ประกอบการ” Inés Sagrario ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอบอก

ที่มา คลิกภาพ

 

ทีมงานทำงานอย่างหนัก พยายามเข้าถึงทุกคนที่ทำเรื่องฮ็อพ คอนเนคชั่นที่ดีในแคว้นบาสก์ช่วยให้พวกเขารวบรวมเหง้าฮ็อป ซึ่งทําให้ผู้ก่อตั้งสามารถเริ่มการทดลองครั้งแรกในปี 2020 ความก้าวหน้าในการปลูกฮ็อพในร่มเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2022 พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้

คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ

ฮ็อพสำคัญต่อการผลิตเบียร์ — ให้ความขมและกลิ่นหอมที่เป็นลักษณะเฉพาะของรสชาติของเบียร์ อย่างไรก็ตาม ตลาดฮ็อพทั่วโลกกําลังถูกคุกคาม พืชส่วนใหญ่ปลูกในเยอรมนีตอนใต้และแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกเดือดที่รุนแรงมากขึ้น รวมถึงภัยแล้งและอุณหภูมิสูง

 

ปี 2022 ภัยแล้งในเยอรมนีทําให้ผลผลิตฮ็อปลดลง 30% โดยคุณภาพลดลง 40 % การหยุดชะงักเหล่านี้เป็นเรื่องน่ากังวลสําหรับผู้ผลิตเบียร์ เนื่องจากคุณค่าของฮ็อพอยู่ที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ

“ปัญหาของฮ็อพคือไม่ได้วัดจากน้ําหนักเท่านั้น  ผู้ผลิตเบียร์ไม่สนใจกิโลกรัมของฮ็อพมากเท่ากับ น้ํามันหอมระเหยและเรซินหลายกิโลกรัมในฮ็อพ ซึ่งเป็นสารประกอบที่สร้างความขมและรสชาติในเบียร์”   

ถ้าฮ็อพคุณภาพต่ำ จะทำให้ความขมหรือน้ํามันหอมระเหยน้อยลง และต้องใช้ฮ็อพเพิ่มขึ้น 2 เท่าเพื่อรักษารสชาติเดิม ไม่ใช่แค่เรื่องปริมาณเท่านั้น มันยังเป็นเรื่องการรับรองคุณภาพที่เหมาะสมด้วย หากคุณภาพลดลงเนื่องจากปัญหาโลกรวน ก็จะบังคับให้ผู้ผลิตเบียร์ใช้ฮ็อพมากขึ้นหรือเปลี่ยนสูตรเบียร์ทั้งหมด ซึ่งเป็นฝันร้ายในประเด็นความสม่ำเสมอ นี่เป็นความท้าทายยิ่งใหญ่สําหรับผู้ผลิตเบียร์ที่พึ่งพาฮ็อพ เพื่อสร้างโปรไฟล์เบียร์ที่เป็นเอกลักษณ์

 

ปัญหานี้ยังเป็นเรื่องความหลากหลายของฮ็อพ มีพันธุ์ที่แตกต่างกันมากถึง 300 สายพันธุ์ด้วย แต่ละสายพันธุ์ให้รสชาติที่แตกต่างกันซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเบียร์ การสูญเสียพันธุ์เฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจบังคับให้ผู้ผลิตเบียร์ต้องเปลี่ยนสูตรเบียร์โดยสิ้นเชิง

 

“เบียร์แต่ละชนิดมีรสชาติแบบที่มันเป็นเพราะฮ็อพเฉพาะพันธุ์ที่ใช้  มันซับซ้อนกว่าไวน์   ผู้ผลิตเบียร์ใช้ฮ็อพที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อผลิตเบียร์ของตน หากหนึ่งในพันธุ์เหล่านี้ไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากภาวะโลกเดือด อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย คุณอาจถูกบังคับให้เปลี่ยนสูตรโดยสิ้นเชิง และเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกลักษณ์ของเบียร์”

การเพาะปลูกเบียร์แห่งอนาคต

ที่มา คลิกภาพ

แพลตฟอร์มการทําฟาร์มแนวตั้งที่ปรับแต่งได้ของ Ekonoke สร้างสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนสําหรับฮ็อพ  ทําให้ผู้ผลิตเบียร์มีแหล่งฮ็อพคุณภาพสูงที่เชื่อถือได้ตลอดทั้งปี ฟาร์มในร่มใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน ช่วยให้มั่นใจได้ถึงสภาพการเจริญเติบโตเหมาะสมที่สุดสําหรับแต่ละพันธุ์

 

ฟาร์มนําร่องของบริษัทครอบคลุมพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็นสามห้อง แต่ละห้องมีขนาดประมาณ 300 ตารางเมตร บริษัทวางแผนที่จะขยายไปยังฟาร์มขนาดอุตสาหกรรมครอบคลุมพื้นที่ 11,000 ถึง 12,000 ตารางเมตร โดยแต่ละห้องมีขนาด 1,000 ตารางเมตร ด้วยห้อง 10-12 ห้อง แต่ละห้องมีวงจรการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน Ekonoke จะสามารถเก็บเกี่ยวฮ็อพอย่างน้อย 1 ห้องได้ทุกสัปดาห์ ช่วยขจัดความเสี่ยงจากความผันผวนของฤดูกาล และจัดหาฮ็อพคุณภาพสูงที่สม่ำเสมอให้กับผู้ผลิตเบียร์ตลอดทั้งปี

“เราไม่ได้ปลูกฮ็อพเท่านั้น เรากําลังขยายอนาคตของการผลิตเบียร์   สิ่งที่เรากําลังทําคือการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตเบียร์ได้รับผลผลิตฮ็อพที่มั่นคง และเชื่อถือได้ ซึ่งไม่ขึ้นอยู่กับรูปแบบสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้”

Sagrario กล่าวต่อไปว่า วิธีทําฟาร์มในร่มถูกออกแบบมาให้มีความสม่ำเสมอ ยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศ และปรับขนาดได้ ดังนั้นจึงสามารถรับประกันได้ว่า ผู้ผลิตเบียร์จะได้รับผลผลิตคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้คือเบียร์ที่ดีขึ้น

“เราหวังว่าจะแสดงให้เห็นว่าโมเดลนี้สามารถนําไปใช้กับพืชผลอื่นๆ ได้หลายชนิด ซึ่งช่วยแก้ปัญหาด้านการเกษตรที่ใหญ่กว่านี้ ขณะที่เราเองก็ก้าวไปข้างหน้า”

การขยายขนาดเป็นสิ่งสําคัญสําหรับทีม ซึ่งวางแผนปลูกฟาร์มฮ็อป 2-3 เฮกตาร์ (12-18 ไร่) ต่อปีในอีก 6-7 ปีข้างหน้า โดยจะถึง 7 เฮกตาร์ (42 ไร่) ภายในปี 2029

ความร่วมมือกับแบรนด์

ที่มา คลิกภาพ

ความพยายามด้านความยั่งยืนของ Ekonoke ได้รับการเสริมสร้างผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้นําในอุตสาหกรรม เช่น AB InBev, Bain & Company และ SIEMENS ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทสําคัญในการใช้เทคโนโลยีของ Ekonoke

 

สตาร์ทอัพมีส่วนร่วมใน 100+ Accelerator ของ AB InBev ซึ่งช่วยตรวจสอบทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพของหน่วยของระบบการทําฟาร์มฮ็อปในร่ม

 

SIEMENS ช่วยทําให้ระบบขยายเป็นอุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจถึงความแข็งแกร่งสําหรับการผลิตขนาดใหญ่ ขณะที่ Bain & Company ได้ทําการวิเคราะห์รอบด้านเกี่ยวกับรูปแบบการผลิตที่เข้ากับท้องถิ่นของ Ekonoke เทียบกับการเพาะปลูกฮ็อพกลางแจ้ง การค้นพบนั้นน่าทึ่ง

“เมื่อคุณคํานึงถึงผลกระทบซึ่งเกิดจากการใช้สารกําจัดศัตรูพืช ซึ่งเราไม่ได้ใช้ ความแตกต่างจะยิ่งเห็นชัด และสําคัญยิ่งขึ้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราลดลงอย่างมาก การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดมีเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับวิธีการแบบเดิม เรายังขจัดต้นทุนการขนส่ง สามารถเก็บเกี่ยวได้ถึง 4 ครั้งต่อปี ช่วยเร่งการดักจับคาร์บอนผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง”

การควบคุมคุณภาพเป็นสิ่งสําคัญที่สุดสําหรับ Ekonoke พวกเขาส่งตัวอย่างจากการเก็บเกี่ยวทุกครั้งไปยังห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองในเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ทดสอบองค์ประกอบทางเคมี รวมถึงน้ํามันหอมระเหยและกรดอัลฟาอย่างละเอียด

 

ฮ็อพที่ปลูกในแนวตั้งยังได้รับการทดสอบโดยผู้ผลิตเบียร์ โดยมีการตรวจสอบที่แข็งแกร่งจากพันธมิตรหลัก รวมถึง Estrella Galicia หนึ่งในผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของสเปน และเป็นพันธมิตรรายใหญ่รายแรกของ Ekonoke ฟาร์มนําร่องซึ่งตั้งอยู่ในกาลิเซียใกล้กับโรงเบียร์ของ Estrella จะขยายเป็นฟาร์มระดับอุตสาหกรรมถัดจากโรงเบียร์แห่งใหม่ของพวกเขา

 

Ekonoke ยังร่วมมือกับ Cosecha de Galicia ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าด้านนวัตกรรมทางการเกษตรของ Hijos de Rivera ผู้ผลิตเบียร์ที่อยู่เบื้องหลังและบริษัทแม่ของ Estrella Galicia ความร่วมมือนี้ทําให้ Ekonoke และ Cosecha de Galicia ได้เรียนรู้จากกันและกันขณะที่พวกเขาขยายการผลิตในกาลิเซีย เบียร์เชิงพาณิชย์ตัวแรกที่ใช้ฮ็อพของ Ekonoke   India Pale Ale จากแบรนด์ La Tita Rivera ของ Hijos   มีวางจําหน่ายแล้วที่แกสโตรผับ La Tita Rivera ในมาดริด โกรูญา และบีโก พร้อมเบียร์อีกมากมายที่จะตามมา

 

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มของบริษัทยังช่วยให้สามารถปรับแต่งสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด เพื่อทดลองกับฮ็อพพันธุ์ใหม่และปรับปรุงลักษณะเฉพาะช่วยให้ผู้ผลิตเบียร์สามารถแยกความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ด้วยฮ็อพพันธ์พิเศษ

 

 

ล้ำกว่าแค่ผลิตเบียร์

 

นอกจากทำให้ผู้ผลิตเบียร์ทุกแห่งถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้ว เทคโนโลยีของ Ekonoke อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมสําหรับสาขาการแพทย์ เพราะฮ็อพมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย และเป็นไปได้ที่จะใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ โรคโครห์น และแม้แต่มะเร็ง

“ฮ็อพเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Cannabaceae และมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันกับ CBD โดยไม่มีความซับซ้อนด้านกฎระเบียบ เรากําลังค้นหาวิธีปลดล็อกศักยภาพทางการแพทย์ของฮ็อพ โดยการเพิ่มอุปทาน”

นอกจากนี้ Ekonoke ยังกําลังค้นคว้าวิธีการสกัดสารประกอบที่มีคุณค่าจากวัสดุเหลือใช้ เพื่อใช้ในเครื่องสําอางและบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนด้วย

ที่มา

You Might Also Like