27 กุมภาพันธ์ 2568…ศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCGC) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนที่โรงงาน ลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (LSP) ประเทศเวียดนาม ว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง (EPC contract) ถังเก็บก๊าซอีเทนเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2570
SCGC เป็นรายแรกในอาเซียนที่นำก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกามาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตของ LSP ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้กว่า 30% เมื่อเทียบกับแนฟทา พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นด้านการจัดหาวัตถุดิบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ห่วงโซ่อุปทานของการนำเข้าก๊าซอีเทนให้โรงงาน LSP มี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
1.สัญญาซื้อขายอีเทนและท่าเรือส่งออก SCGC ได้ลงนามในสัญญาระยะยาว 15 ปี กับผู้ผลิตก๊าซอีเทนในสหรัฐอเมริกา พร้อมท่าเรือส่งออกที่สามารถรองรับการขนส่งอีเทนในปริมาณสูง
2.เรือขนส่งก๊าซอีเทน (Very Large Ethane Carriers – VLECs) บริษัทได้ทำสัญญาเช่าเหมาขนส่งกับ Mitsui O.S.K. Lines (MOL) รวม 5 ลำ โดย 3 ลำแรกได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนอีก 2 ลำที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ
3.ถังเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทน โรงงาน LSP จะมีถังเก็บขนาดใหญ่ 2 ถัง ความจุ 55,000 ตันต่อถัง โดยออกแบบให้สามารถรองรับก๊าซอีเทนที่อุณหภูมิ -90 องศาเซลเซียสได้อย่างปลอดภัย
การก่อสร้างถังเก็บก๊าซอีเทนได้รับความร่วมมือจาก China Tianchen Engineering Corporation และ PetroVietnam Technical Service Corporation คาดว่าจะรองรับปริมาณก๊าซอีเทนได้ 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นคงด้านวัตถุดิบของโรงงาน LSP
โครงการ LSPE มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 18,000 ล้านบาท) ซึ่งมาจากแหล่งเงินทุนภายในของ SCGC
“SCGC มุ่งมั่นเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของโรงงาน LSP และเตรียมความพร้อมรับการฟื้นตัวของตลาดปิโตรเคมีในภูมิภาค โดยการนำเข้าก๊าซอีเทนถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว” ศักดิ์ชัย กล่าวในท้ายที่สุด