7 มีนาคม 2568…ปักธงชูหลัก 4 มิติความยั่งยืน จัดหาวัตถุดิบยั่งยืน ลดการปล่อยคาร์บอน ลดพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ ลดขยะอาหารยกระดับ Thai Farmer Better Life Partner หนุนเกษตรกรชาวไร่กาแฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสร้างสังคม “กินดี มีสุข”
สมิชฌน์ เพ็ชร์ดี ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความยั่งยืน บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด และ นพดล จิตรมั่น ผู้จัดการหน่วยงานผลิตและพัฒนา บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เอฟดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันกล่าวถึง “อายิโนะโมะโต๊ะ” ส่ง “วัฏจักรอาหารยั่งยืน” พิชิตเป้าหมายความยั่งยืนปี 2568
ก่อนเข้าสู่เนื้อหา ผู้บริหารทั้งสองได้กล่าวถึงความตั้งใจ อายิโนะโมะโต๊ะ เดินหน้าฟื้นฟูดินและสร้างระบบเกษตรกรรมยั่งยืนผ่านแนวคิด Regenerative Farming ผ่านการปลูกมันสำปะหลังเสมือน Sandbox โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยของภาครัฐและเกษตรกรในพื้นที่ใกล้โรงงาน เพื่อทดลองวิธีปลูกมันสำปะหลังที่สามารถทนแล้งได้ดีขึ้น ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมตั้งเป้าหมายให้เกษตรกรเข้าใจแนวทางใหม่ แม้ว่าผลผลิตอาจลดลงในช่วงแรก แต่จะช่วยสร้างระบบนิเวศโดยเฉพาะเรื่องของดินที่ดีขึ้นในระยะยาว ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะเริ่มต้นได้ในปี 2569
สิ่งที่กล่าวข้างต้น ยังอยู่ใน “หัวใจสำคัญของอายิโนะโมะโต๊ะ” คือ การสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจอาหาร ผ่านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและเกษตรกร เรามุ่งเน้นไปที่ วัฏจักรอาหารยั่งยืน ใน 4 มิติ ได้แก่
1) จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ โดยตั้งเป้า 75% ภายในปี 2568 พร้อมใช้มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) กับเกษตรกรไทยเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผลผลิต
2) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นำแนวทาง Ajinomoto Bio-cycle ลดคาร์บอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมใช้พลังงานหมุนเวียนและมาตรการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) ในโรงงานผลิตทั้งหมด
3) ลดการใช้พลาสติก ปรับบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลาสติกใหม่ หันมาใช้พลาสติกรีไซเคิล และพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อลดขยะ
4) ลดขยะอาหาร ตั้งเป้าลด Food Waste เป็นศูนย์ (Zero Food Waste) ในโรงงาน ขยายโครงการ Too Good To Waste สู่ภาคครัวเรือน และร่วมมือกับร้านอาหารชื่อดังเพื่อรณรงค์การใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า
“เรากำลังเดินหน้าขยาย โครงการ Thai Farmer Better Life Partner สู่ปีที่ 5 โดยปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วม 1,300 ครัวเรือน ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง 30% นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาปุ๋ยชีวภาพและสารกระตุ้นชีวภาพเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของดิน พร้อมขยายการตรวจสอบย้อนกลับของวัตถุดิบเกษตรเพื่อลด CO₂ ใน Scope 3 อย่างเป็นรูปธรรม”
นอกจากเกษตรกรรม อายิโนะโมะโต๊ะยังตั้งเป้าลด Carbon Footprint ผ่าน Ajinomoto Bio-cycle โดยนำ หลัก 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) มาใช้ในทุกโรงงาน และตั้งเป้าลดขยะอาหารในโรงงานให้เป็น ศูนย์ (Zero Food Waste) ซึ่งขณะนี้โรงงานเบอร์ดี้สามารถลดขยะอาหารได้ถึง 82% และกำลังผลักดันแคมเปญ Too Good To Waste เพื่อให้ภาคครัวเรือนมีส่วนร่วมในการลดขยะอาหารมากขึ้น
ในปี 2568 อายิโนะโมะโต๊ะวางเป้าหมายให้การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนครอบคลุม 75% ของซัพพลายเชน และใช้มาตรฐาน หลักปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) กับเกษตรกรไทย
ทั้งนี้ โครงการมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืนแผนการดำเนินงาน 5 กิจกรรมหลักคือ
1)AFDG one-stop service ครบวงจรทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์ด้วยการสร้างเครือข่ายเพื่อการเกษตรกับพาร์ตเนอร์ เช่น คูโบต้าในเรื่องการเตรียมดิน เก็บเกี่ยว และสตาร์ตอัพการเกษตร ListenField พัฒนาแอปพลิเคชั่นการเกษตรที่มีการพยากรณ์อากาศ การเจริญเติบโต การเก็บเกี่ยว และการตรวจสอบกลับได้
2) นำระบบ AI มาสร้าง supply chain เพื่อช่วยในการจับคู่โรงงานแป้งและเกษตรกร
3) ร่วมมือกับโรงแป้ง ในการรับมันสำปะหลังของโครงการ Thai Farmer Better Life Partner”
4) พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ปุ๋ยชีวภาพ/สารกระตุ้นชีวภาพเพื่อเสริมการเจริญเติบโตของพืช และการจัดการน้ำ
5) Farm School สานต่อโครงการร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร มุ่งเน้นการให้ความรู้และเทคนิคการเพาะปลูกที่ทันสมัยแก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังและกาแฟเพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทย
ในขณะที่โครงการ Green Coffee Bean (GCB) Farmer Sustainability อายิโนะโมะโต๊ะ เป็นผู้ผลิตกาแฟ “เบอร์ดี้” ที่เป็นกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเจ้าตลาดในประเทศไทย บริษัทฯ จึงพร้อมสนับสนุนการเติบโตของเกษตรกรไทยอย่างครบวงจร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตาม “หลักปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP)” กับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีตรงตามมาตรฐานที่กำหนด ควบคู่ไปกับการไม่ทำให้เกิดมลพิษ และเกิดความยั่งยืนทางการเกษตรในระยะยาว
“เราเชื่อว่าการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารต้องพัฒนาไปพร้อมกับความยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งและสมดุลทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ” ผู้บริหารกล่าวปิดท้าย