2 เมษายน 2564….SD Perspectives ติดตามอีก 1 แบรนด์ โคคา-โคล่า ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ “บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” ซึ่งในปีที่ 14 นี้ ได้จัดทำวิดีโอ Stop Motion เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมกันค้นหาคำตอบของการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน
เพราะทุก ๆ ปี ผู้คนจำนวนไม่น้อยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ยังต้องประสบกับปัญหาที่วนเวียนเกิดขึ้นเป็นประจำ นั่นก็คือ “ปัญหาน้ำ” ไม่ว่าจะเป็นน้ำแล้ง หรือน้ำท่วม และเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักถึงปัญหาน้ำที่ไม่เคยห่างหายไปจากสังคมไทย และนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย จึงได้จัดทำวิดีโอ Stop Motion เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมกันค้นหาคำตอบของการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน
วิดีโอ เพราะนํ้าคือชีวิต… ร่วมค้นหาการแก้ปัญหานํ้าแล้ง น้ำท่วม กับโครงการ “รักนํ้า” บอกเล่าเรื่องราวของน้ำที่สร้างผลกระทบที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ บางแห่งต้องประสบปัญหาภัยแล้ง หรือไม่มีน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค ขณะที่บางพื้นที่กลับรับปริมาณน้ำที่มากเกินไปจนเกิดเป็นอุทกภัย ซึ่งทาง โคคา-โคล่า ภายใต้การทำงานผ่านมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชุมชนบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำที่แตกต่างเหล่านั้นผ่าน โครงการ “รักน้ำ”
ตัวละคร ที่หลากหลาย ทั้งครอบครัวชาวบ้านในชุมชน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการแหล่งน้ำจากองค์กรพันธมิตร ได้ถ่ายทอดการดำเนินงานใน โครงการ “รักน้ำ” ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น ชุมชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมก็สนับสนุนการขุดสระเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรและป้องกันน้ำท่วม ทำคลองส่งน้ำ ประตูระบายน้ำ เป็นต้น
หรือในพื้นที่ปัญหาน้ำแล้งจากการบุกรุกทำลายป่าเพื่อการเกษตร หรือป่าต้นน้ำเสื่อมโทรมจากการใช้สารเคมีการเกษตร ก็มีการรณรงค์ไม่ตัดไม้ทำลายป่า อนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับป่าต้นน้ำอีกทาง ส่วนชุมชนที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค ก็มีการสนับสนุนการทำระบบประปาแสงอาทิตย์เพื่อให้มีน้ำกิน น้ำใช้ และทำการเกษตร จะเห็นได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาโดยบริหารจัดการน้ำให้เหมาะกับปัญหาน้ำที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านน้ำจากองค์กรพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันกับมูลนิธิ ฯ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้จะไม่สำเร็จเลย หากปราศจากความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และโดยเฉพาะผู้คนในชุมชน
นอกจากการดำเนินเรื่อง รวมถึงตัวละครและฉากต่างๆ จะถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนที่มี “น้ำ” เป็นหัวใจสำคัญในการดำรงชีวิตและการทำเกษตรกรรมแล้ว
เอกลักษณ์ความเป็นไทยพื้นบ้านยังถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงเพลงที่นำเอาเครื่องดนตรีไทยมาเป็นส่วนสำคัญในการรังสรรค์ทำนอง ไปจนถึงเสื้อผ้าของตัวละคร บางส่วนตัดเย็บด้วยผ้าไหมทอมือจากบ้านถนนงาม และบ้านหนองแวงน้อย ตำบลบ้านหัน อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น อันเป็นผลผลิตจากโครงการ “รักน้ำ” ที่มีการจัดการน้ำเพื่อชุมชนโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้มีน้ำกินน้ำใช้ในชีวิตประจำวันอย่างพอเพียง และสามารถปลูกหม่อน เลี้ยงไหม นำไปทอผ้า เพื่อใช้เองและจำหน่ายได้
ปัญหาน้ำในประเทศไทยนั้นต้องการการบริหารจัดการที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ พร้อมไปกับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และจากคนไทยทุกคน วิดีโอนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจผลักดันให้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมกันอนุรักษ์น้ำ อันเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศและคนไทยทุกคน