23 ธันวาคม 2565…ธนาคารกรุงเทพ ยืนนโยบายธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ผนึกกำลังลูกค้าตัวอย่าง แชร์ประสบการณ์ ส่งต่อโมเดลธุรกิจยุคใหม่ ในเวที Isan BCG Expo 2022 ที่ขอนแก่น พร้อมเปิดบูธกิจกรรม ชวนลูกค้าโชว์สินค้าคุณภาพ นำโดยอะโวคาโดสกัดเพื่อสุขภาพจาก “บริบูรณ์ฟาร์ม” และกาแฟ เบลนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจาก “สันติพาณิชย์” ร่วมลงพื้นที่หวังเปิดตลาดใหม่ พร้อมชู ‘สินเชื่อบัวหลวงกรีน’ หนุนผู้ประกอบการปรับตัว ลงทุนพัฒนากระบวนการใหม่ ใส่ใจโลกและสิ่งแวดล้อม
ทัฬห์ สิริโภคี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายลูกค้าธุรกิจรายปลีก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้กำหนดวิสัยทัศน์สำหรับการดำเนินธุรกิจในระยะยาวด้วยการสรรค์สร้างคุณค่าเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Creating Value for a Sustainable Future) สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นผ่านบริการด้านเงินทุนและสินเชื่อสำหรับภาคการเกษตรที่ถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบบเศรษฐกิจไทย จนถึงปัจจุบันที่มีผู้ประกอบการหลายรายเริ่มปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม ซึ่งธนาคารต้องการประสานความร่วมมือกับลูกค้าดังกล่าว ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งต่อความรู้และประสบการณ์โมเดลธุรกิจยุคใหม่ไปสู่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green)
ในฐานะผู้สนับสนุนหลักการจัดงาน Isan BCG Expo 2022 ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มมิตรผล ภายใต้แนวคิด Collaboration “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีสาน ตลอดจนเดินหน้าผลักดันให้อีสานเป็นศูนย์กลางสร้างเศรษฐกิจไทยสู่ภูมิภาคอาเซียนบนพื้นฐานโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถจัดแสดงสินค้าและบริการเพื่อนำเสนอศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรมของผู้ประกอบการไทย
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ ได้ร่วมสร้างสรรค์บูธกิจกรรมในงานฯ ภายใต้แนวคิด “เพื่อนคู่คิดธุรกิจคิดดี” เพื่อสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และวิสาหกิจชุมชน ที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคม เศรษฐกิจ ช่วยแก้ไขปัญหา พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างรายได้พร้อมกันไปกับการทำประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เด่นอย่าง ‘สินเชื่อบัวหลวงกรีน’ ซึ่งเป็นการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับธุรกิจที่ต้องการลงทุนด้านพลังงานทดแทน (Renewable) ไม่ก่อมลพิษทางอากาศหรือปล่อยก๊าซเรือนกระจก การลงทุนเพื่อนำวัสดุใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) การลงทุนกับผลิตผลที่ใช้สารชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมี ลงทุนพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
ธนาคารยังได้เปิดพื้นที่บูธกิจกรรมเพิ่มเติม โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าผู้ประกอบการเข้าร่วมนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ภายในงาน เพื่อเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการขยายตลาดสู่พื้นที่ใหม่ ๆ รวมถึงการจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “BCG Economy in Practise” ซึ่งได้เชิญผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของธนาคาร 2 รายมาร่วมแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ตรง โดยมีฐิติรัตน์ ศักดาปรีชา ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ จาก ‘บริบูรณ์ฟาร์ม’ ผู้ผลิตและจำหน่ายสารสกัดน้ำมันอะโวคาโด รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ พร้อมสร้างเครือข่ายเกษตรกรที่มีระบบการเพาะปลูกที่ปลอดภัย และจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรเพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่สอดคล้องกับแนวทางสร้างความยั่งยืน และจิรศักดิ์ สุทธาดล ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ จาก ‘สันติพาณิชย์ Coffee & Roaster’ กูรูเบลนด์กาแฟ ผู้ครีเอท Specialty Coffee ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า สนับสนุนความรู้การผลิตและการพัฒนาคุณภาพของผลผลิต โดยรับซื้อกาแฟจากเกษตรกรที่สูงตามคุณภาพที่ดีขึ้น สร้างความน่าอยู่ให้เกิดขึ้นกับชุมชน
ฐิติรัตน์ ศักดาปรีชา ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ‘บริบูรณ์ฟาร์ม’ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จของบริบูรณ์ฟาร์ม อยู่ที่การปรับโครงสร้างธุรกิจสู่การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-Driven Entrepreneurship) สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ แนวคิดหรือไอเดียใหม่ ๆ ร่วมกับนักวิจัย จนได้ผลิตภัณฑ์สารสกัดน้ำมันอะโวคาโด เพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพให้ตรงความต้องการผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มที่แข็งแกร่งให้กับตัวผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันทางบริบูรณ์ฟาร์มยังให้ความสำคัญกับเครือข่าย ส่งเสริมชุมชนให้มีความยั่งยืน โดยร่วมกับเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโดในพื้นที่ใกล้เคียงและต้องมีเจตนารมณ์เดียวกัน โดยได้คัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมให้ความรู้วิธีการดูแล โดยเน้นให้เกษตรกรในเครือข่ายพัฒนาคุณภาพผลผลิตอย่างสม่ำเสมอ ยังเป็นการช่วยผลักดันให้เกษตรกรในพื้นที่เปลี่ยนจากพืชไร่เชิงเดียวหันมาผลิตพืชยืนต้นที่มีมูลค่าสูงเพิ่มพื้นที่สีเขียว และสนับสนุนให้เกษตรกรใช้สารชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นการช่วยเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรในเครือข่ายอีกด้วย
จิรศักดิ์ สุทธาดล ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ‘สันติพาณิชย์ Coffee & Roaster’ กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อย่างเมล็ดกาแฟ ที่เรียกว่า Specialty Coffee สิ่งที่สำคัญคือการสร้างคุณภาพมาตรฐานของเมล็ดกาแฟ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การคั่ว จนถึงการ Blend กาแฟต่างสายพันธุ์มาผสมกันเพื่อสร้างรสชาติที่แตกต่างและซับซ้อนให้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดงานวิจัยด้านกระบวนการหลังเก็บเกี่ยว Carbonic Maceration และ Yeast Process เพิ่มคุณภาพและรสชาติของกาแฟทำให้มูลค่าสูงขึ้น (Value added) โดยทางสันติพาณิชย์ยังทำหน้าที่ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคให้เข้าใจ Specialty Coffee และได้เชื่อมโยงกับเกษตรกรช่วยสนับสนุนความรู้ด้านกระบวนการผลิต การจัดการหลังเก็บเกี่ยว และที่สำคัญคือรับซื้อกาแฟในราคายุติธรรมตามคุณภาพของกาแฟ เกษตรกรจึงมีการพัฒนาลานตากเมล็ดกาแฟ ลงทุนทำบ่อหมัก รวมถึงการปลูกต้นไม้เพิ่มเพื่อรักษาพื้นที่สีเขียวและทำให้คุณภาพกาแฟดีขึ้นกลายเป็น Value Chain ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าได้ทุกขั้นตอน ก่อนจะกลายเป็นการเชื่อมโยง Supply Chain ระยะยาว (Long Term Relationship) ระหว่างสันติพาณิชย์และเกษตรกรซึ่งทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืน
“ธนาคารกรุงเทพมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน และในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” ธนาคารก็พร้อมเคียงข้างสนับสนุนให้ลูกค้าประกอบธุรกิจเพื่อความยั่งยืนเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาเรามีลูกค้าที่ประสบความสำเร็จในการสรรค์สร้างนวัตกรรมเข้ามาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร และปรับโมเดลธุรกิจสู่รูปแบบใหม่ที่สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว โดยธนาคารพร้อมเป็นผู้สนับสนุนด้านการจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมมาช่วยให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างแข็งแรง และเชื่อมั่นว่าภาคธุรกิจที่แข็งแรงจะเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ที่พัฒนาทั้งสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ได้อย่างสมดุล ก่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน” ทัฬห์ กล่าวในท้ายที่สุด