ACTIVITIES

Change Innovation Idealism & Freedom พระพุทธเจ้าทรงพบ 2 พันกว่าปีแล้ว

21 กันยายน 2562…ตรงกับอริยสัจ 4 ใช้คู่กลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อธุรกิจประสบความสำเร็จ อีกทั้ง “ฝึกสติ รับวิกฤต” แนวทางแก้ปัญหาในยุคปัจจุบัน

หลักธรรมคำสอนที่เคยได้ยินมาก็สามารถนำพาธุรกิจให้ไปสู่จุดสูงสุดได้ เป็นสิ่งที่ “สถาบันยุทธศาสตร์ธุรกิจเชิงบวก” หรือ iSAB ให้ความสนใจและเห็นความสำคัญ จึงได้นิมนต์ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี มาเป็นวิทยากรพิเศษของหลักสูตร “THE MASTER” โดยบรรยายในหัวข้อ “ฝึกสติ รับวิกฤต”

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ได้บรรยายถึงหลักการดำเนินธุรกิจในเวทีโลกปัจจุบันไว้ว่า “พันธกิจของทุกคนที่จะเดินหน้าประกอบอาชีพของตนเองให้เป็นอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ สามารถอยู่ได้บนเวทีโลกได้ในปัจจุบัน ต้องมีปรัชญา 4 คำนี้ ซึ่งมาจาก Uranus Theory ด้แก่ 1) Change 2) Innovation 3) Idealism และ 4) Freedom

“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญบนเวทีโลกในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการศึกษา 4 คำนี้จะมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของทุกคน เมื่อโลกหมุนไปประเทศไทยก็ต้องหมุนตาม รวมถึงธุรกิจของเราด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

สิ่งที่มีอุปการะเป็นอย่างมากของชีวิตมนุษย์มีอยู่สองอย่าง ได้แก่

สติ หมายถึง ความระลึกได้
สัมปชัญญะ หมายถึง รู้สึกตัวได้ในขณะที่พูดและกระทำ

อันดับแรก เราต้องมีสติในการดำเนินชีวิตให้เท่าทันกับเวทีโลก ถ้าตัวเราขาดสติ การพูดและการกระทำก็จะออกมาไม่ดี ทุกคนที่หวังความเจริญก้าวหน้าจึงต้องตั้งสติเป็นอย่างแรก แล้วจึงไปข้อที่สองคือสัมปชัญญะ เราต้องรู้ตัวว่าพูดและทำอะไร

“สิ่งที่สำคัญของชีวิตคือ ผิดแล้วรู้ตัวว่าผิด สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ เมื่อรู้ว่าผิดหรือบกพร่องแล้วก็ตั้งสติ คิดให้รอบด้านครบทุกมิติเพื่อแก้ไขได้”

ทั้งสองสิ่งนี้เป็นขั้นพื้นฐานที่จะครองชีวิตหน้าที่การงานให้บรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นปัญหาหรือวิกฤตที่เกิดขึ้นจึงมาจากการที่เราไม่ยอมรับใน 4 คำนี้ ทำให้ธุรกิจของเราล้าหลัง ไม่ประสบผลสำเร็จในโลกปัจจุบัน และหากเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลง คู่แข่งก็จะเดินนำหน้าเราไปในที่สุด

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ได้อธิบายต่อว่า นอกจากนี้ยังมีหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ คือ อริยสัจ 4 ซึ่งมีแนวทางที่สอดคล้องกับปรัชญาดังกล่าวทั้ง 4 ข้อและสามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้ โดยอริยสัจ 4 ประกอบไปด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สามารถเปรียบเทียบได้คือ

1.ทุกข์ คือสภาพที่ทนได้ยาก เราจึงต้องการกำจัดความทุกข์ต่าง ๆ ด้วย Change เช่นเดียวกับการทำงานที่เราต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความสำเร็จ ดังนั้นการประสบความสำเร็จจึงเป็นความสุขแท้
2.สมุทัย คือการหาสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ในปัจจุบันหน้าที่การงานและชีวิตประจำวันของเราอยู่กับ Innovation ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้ค้นพบสาเหตุของปัญหาและเป็นตัวช่วยทำให้การทำงานของเราบรรลุเป้าหมายได้
3.นิโรธ คือ การดับทุกข์ เปรียบเทียบได้กับ Idealism ที่เราต้องทำมาสเตอร์แพลนเพื่อวางแผนให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย
4.มรรค คือ แนวทางปฏิบัติที่นำไปสู่การดับทุกข์ เมื่อเราสามารถทำตามมาสเตอร์แพลนที่วางไว้ได้สำเร็จ เราจึงจะมีชัยชนะ ซึ่งเปรียบได้กับ Freedom โดยเราจะมีเสรีภาพในความก้าวหน้าที่จะก้าวในระดับต่อไป

หลักสูตร THE MASTER รุ่นที่ 5 ได้รับการตอบรับจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรระดับประเทศ มาเข้าร่วมอบรมกว่า 100 ท่าน

เมื่อนำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในการบริหารองค์กรก็จะผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้

ในการบรรยายครั้งนี้ทำให้ผู้มาอบรมในหลักสูตร THE MASTER ได้ข้อคิดในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงแนวทางการบริหารองค์กรในหลายด้าน สามารถนำไปปรับใช้ในองค์กรของตนเองได้

You Might Also Like