14 มีนาคม 2565…. โฟกัสลูกค้าทุกธุรกิจเพื่อร่วมกันสร้างความยั่งยืนด้วยแนวทาง ESG โดยธนาคารเตรียมเงินไว้ 50,000-100,000 ล้านบาทภายในปี 2573 สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจของลูกค้าผ่านความร่วมมือ MUFG
ประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2565 นี้ ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 2% และตั้งเป้าการเติบโตด้าน ESG Finance อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และให้ความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าด้าน ESG Financing ในตลาดการเงินโลกร่วมกับ MUFG เพื่อส่งเสริมการเติบโตของตลาดการเงินเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทย
“ธนาคารพูดคุยกับลูกค้าธุรกิจถึงเรื่อง ESG Financing หากลูกค้าไม่ทำจะมีความท้าทายต่อ Stakeholder ที่จะต้องถามผู้บริหารบริษัทกลับว่า คุณมี ESG Commitment มากเพียงใด ลูกค้าบางบริษัทบอกว่า นี่เขียน ESG ไว้มากมายเลย แต่เมื่อธนาคารเปิดดูพบว่า ยังไม่ใช่ ความมุ่งมั่นก็ยังไม่ใช่ การเข้าถึง KPI ทำได้ง่าย โดยที่ธุรกิจประเทเดียวกันในต่างประเทศ การเข้าถึง KPI ของ ESG จะยากกว่านี้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทีมงาน ESG ทั้ง Loan หรือ Bond จะแนะนำลูกค้า”
ประกอบเชื่อมั่นว่า ในปี 2565 ความต้องการ ESG Finance ของลูกค้าธุรกิจธุรกิจ จะมากขึ้น แต่สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะเป็นข้อกังวลของลูกค้า แล้วมาใช้การออก Bond ธรรมดา ซึ่งจะเร็วกว่าและง่ายกว่า
อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้วางนโยบาย ESG Financing สร้างการเติบโตผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่
-สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจของลูกค้า (Value Creation): โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งโซลูชั่นให้ลูกค้าอย่างครบวงจรในแบบ Total Financing & Hedging Solution พร้อมประสานความร่วมมือกับ MUFG เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการช่วยลูกค้าขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งต่อยอดพัฒนาตลาดการเงินด้านความยั่งยืนด้วย ESG Finance ที่กรุงศรีมีความโดดเด่นและเชี่ยวชาญ
กรุงศรีมีแนวทางและผลิตภัณฑ์ด้านสังคม (Social) และการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ที่พร้อมให้การสนับสนุนให้กับลูกค้า เช่น สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน และ หุ้นกู้ ESG รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ เช่น โซลาร์รูฟ (Solar Roof)
-คุณภาพสินทรัพย์: ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงการฟื้นฟูหลังจากสถานการณ์โควิด เพื่อให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น และสนับสนุนลูกค้าในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
-Value Chain & Digitalization: ธนาคารจะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำธุรกรรมการเงินมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป
“จากความสำเร็จในปี 2564 มาถึงปี 2565 นี้ เรามีเป้าหมายของการนำเอาความเชี่ยวชาญ องค์ความรู้จาก MUFG มาใช้ประโยชน์ เน้นการสร้างทีมที่แข็งแกร่งเข้าใจลูกค้า นำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และมุ่งส่งเสริมการทำธุรกิจด้าน ESG เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยสนับสนุนลูกค้าในการเติบโตอย่างยั่งยืน” ประกอบกล่าวในท้ายที่สุด