ALTERNATIVE

เปิดแอปฯ “เตะฝุ่น” ใช้นวัตกรรม GIS สู้วิกฤตฝุ่น PM 2.5

24  มกราคม 2568..แอปฯ “เตะฝุ่น” ที่ใช้เทคโนโลยี GIS (Geographic Information System) ในการรวบรวม วิเคราะห์ และแสดงข้อมูลฝุ่น PM 2.5 แบบเรียลไทม์ นับเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหามลพิษในประเทศไทย แอปฯ นี้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน พร้อมนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแผนที่ดิจิทัลที่เข้าใจง่าย

เทคโนโลยี GIS ช่วยให้สามารถผสานข้อมูลเชิงพื้นที่กับข้อมูลเชิงลึกด้านสิ่งแวดล้อม เช่น จุดความร้อน (Hotspot) ดัชนีการระบายอากาศ (Ventilation Index) และตำแหน่งแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 เพื่อนำมาวิเคราะห์และสร้างภาพข้อมูลที่แม่นยำ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.taefoon.com เพื่อวางแผนป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพหรือสนับสนุนการตัดสินใจของหน่วยงานภาครัฐ

“Esri มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี GIS เพื่อแก้ไขวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ โซลูชันนี้ช่วยให้หน่วยงานและภาคประชาชนวิเคราะห์และวางแผนการจัดการมลพิษได้อย่างแม่นยำ พร้อมสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการข้อมูล” ดร. ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธานบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย)บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยี Location Intelligence กล่าว

 

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ กล่าวเสริมว่า ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาที่ต้องการการจัดการอย่างยั่งยืนและครอบคลุม แอปฯ ‘เตะฝุ่น’ ช่วยให้เราสามารถติดตามและวางแผนการป้องกันปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่นนวัตกรรม GIS สำหรับการแก้ปัญหามลพิษ PM 2.5

1.การวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์: แสดงค่าฝุ่น ความเข้มข้นในพื้นที่ จุดความร้อน และอัตราระบายอากาศแบบเรียลไทม์
2.การคาดการณ์ล่วงหน้า: พยากรณ์ลักษณะการกระจายตัวของฝุ่นและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมล่วงหน้า 7 วัน
3.การแสดงผลที่เข้าใจง่าย: ใช้แผนที่ดิจิทัลช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นภาพรวมของสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ต่าง ๆ

นวัตกรรมนี้ช่วยตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารจัดการ โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการลดปัญหามลพิษและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน  3 ด้านสำคัญ ได้แก่

1.ด้านสิ่งแวดล้อม: ลดการกระจุกตัวของการเผาไหม้ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้นและลดความเสี่ยงจากมลพิษที่สูงเกินมาตรฐาน
2.ด้านสังคม: ส่งเสริมการวางแผนการเผาไหม้อย่างเหมาะสม ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และช่วยให้ชุมชนสามารถติดตามและเตรียมตัวรับมือกับปัญหาฝุ่นได้ดีขึ้น
3.ด้านการบริหารจัดการ: ข้อมูลที่เข้าถึงได้อย่างโปร่งใสส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทำให้การจัดการคุณภาพ

You Might Also Like