4 มิถุนายน 2563…เฟสแรกที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ เพลส สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดประมาณปีละประมาณ 734,000 หน่วยต่อปี ประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 528,000 บาทต่อปี
ธุรกิจในเครือ เอ็ม บี เค สำรวจแล้วว่าพื้นที่ดาดฟ้าของแต่ละอาคารสามารถติดตั้งระบบได้ และคำนวณการรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ก็จะสามารถวางแผนผังของวงจรแผ่นรับความร้อนได้ทันที ซึ่งลักษณะของแผ่นรับความร้อนนั้น หลายคนอาจจะคุ้นตากันมาบ้าง โดยจะเป็นแผ่นวงจรเชื่อมต่อ ๆ กันหลายแผ่น เมื่อรับความร้อนจากแสงอาทิตย์มาแล้ว ก็จะแปลงความร้อนเข้าสู่ระบบเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อเชื่อมสู่กระแสไฟฟ้าหลักของแต่ละสถานที่ได้ทันที นอกจากนี้ ก่อนการติดตั้งยังสามารถคำนวณกระแสไฟฟ้าที่จะผลิตได้โดยประมาณ เพื่อให้ทราบว่าจะได้กระแสไฟฟ้ามากน้อยเพียงใดอีกด้วย
การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในธุรกิจต่าง ๆ ของ เอ็ม บี เค มีการวางแผน และแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 เฟส
เฟส1 ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ เพลส เสร็จเรียบร้อย มีขนาดกำลังติดตั้งที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดประมาณปีละประมาณ 734,000 หน่วยต่อปี สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 528,000 บาทต่อปี
เฟส 2 เป็นโครงการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 สนามกอล์ฟริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ สนามกอล์ฟ บางกอกกอล์ฟ คลับ และโรงแรมทินิดี โฮเทล แอท บางกอก กอล์ฟ คลับ
เมื่อรวมทั้ง 2 เฟส จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณปีละ 2,066,000 หน่วย สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าโดยประมาณได้มากกว่า 2,454,000 บาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 695 ตันต่อปี
เฟสที่ 3 จะเป็นแผนการศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปให้กับธุรกิจอื่น ๆ ในเครือ เอ็ม บี เค ในปีต่อไป
เมื่อสามารถติดตั้งครบทุกสถานที่ ตามแผนงานของแต่ละธุรกิจในเครือ เอ็ม บี เค แล้วนั้น เป็นการคำนึงถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการรักษาความสมดุลระหว่างการใช้พลังงานไฟฟ้าและการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี