1 กันยายน 2563… สหราชอาณาจักรและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับความร่วมมือด้านบริการทางการเงิน (Financial Services) เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง
รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ไบรอัน เดวิดสัน เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้กล่าวถึงบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะช่วยกระชับความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสหราชอาณาจักรและ ก.ล.ต. ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการยกระดับมาตรฐานการบัญชี การพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ ฟินเทค (FinTech) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการบริการทางการเงินและโอกาสทางธุรกิจสำหรับอุตสาหกรรมฟินเทคในประเทศไทย
พร้อมกันนี้ ส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน ซึ่งในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นความร่วมมือในเรื่อง การสนับสนุนการออกตราสารหนี้ เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงที่เกิดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ กิจกรรมในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นเรื่อง การพัฒนาระบบนิเวศของธุรกิจฟินเทค (FinTech ecosystem) การทำความรู้จักลูกค้าด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
รื่นวดี ขยายความต่อว่า MoU ฉบับนี้เน้นย้ำความมุ่งมั่นของ ก.ล.ต. ในการดำเนินยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลและความยั่งยืน ซึ่งถูกจัดทำขึ้นในช่วงเวลาอันสำคัญยิ่ง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
“วิกฤตนี้นอกจากจะเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมและการนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้เพื่อรับมือกับผลกระทบแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการปรับตัวเพื่อพร้อมตอบสนองต่อโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ของผู้มีส่วนร่วมในตลาดทุนด้วย ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่า MoU ฉบับนี้ จะช่วยส่งเสริมการยกระดับระบบนิเวศ ของตลาดทุน สนับสนุนการพัฒนาเพื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน”
ไบรอันย้ำว่า บริการทางการเงิน โดยเฉพาะ เทคโนโลยีทางการเงิน หรือ ฟินเทค (FinTech) มีบทบาทสำคัญอย่างมากทั้งในการทำธุรกิจและการดำเนินชีวิตของคนทั่วไปในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19
“ขณะที่เรากำลังฟื้นตัวจากวิกฤติครั้งนี้ บริการทางการเงินก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันในการช่วยให้เราก้าวไปสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ดีกว่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และก่อประโยชน์แก่ผู้คนทั่วถึงยิ่งขึ้น ดังนั้นผมจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศร่วมมือกับ ก.ล.ต. ในหลายด้านอย่างเป็นทางการผ่านกองทุนพรอสเพอริตี้ในวันนี้’’
โครงการ ASEAN Low Carbon Energy Programme
โครงการ ASEAN Low Carbon Energy Programme ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากงบประมาณความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในต่างประเทศ (Overseas Development Assistance) ภายในกองทุนพรอสเพอริตี้ (Prosperity Fund) ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนประเทศในอาเซียน ให้ก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและด้านอื่น ๆ ตามมา ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562-2565
โครงการ ASEAN Economics Reform Programme
โครงการ ASEAN Economics Reform Programme ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากงบประมาณความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในต่างประเทศ (Overseas Development Assistance) ภายในกองทุนพรอสเพอริตี้ (Prosperity Fund) ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและทั่วถึงในประเทศสมาชิกอาเซียน โครงการนี้มุ่งเน้น
1.เสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจผ่านการบังคับใช้กฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญา การปฏิรูปกฎหมาย และการปรับปรุงนโยบายการแข่งขัน
2.พัฒนาความโปร่งใส
3.เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคการเงินผ่านการพัฒนาตลาดทุน ขีดความสามารถด้านฟินเทค และมาตรฐานบัญชี ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562-2565