30 มีนาคม 2564…เผย 5 โครงการภายใต้แนวคิด Creating Shared Value (CSV) เน้นการสร้างคุณค่าร่วมกันด้วยการพัฒนาชุมชน สังคม และ สิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ตอบโจทย์ ESG ซึ่งได้เริ่มต่อยอดความสำเร็จตั้งแต่ปลายปี 2563 จะเห็นผลมากขึ้นในปี 2564
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล ได้ให้ตัวเลขความสำเร็จของโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปี 2563
“เราเชื่อมั่นว่า การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ต้องเริ่มจากความร่วมมือและการลงมือทำจริง ๆ เราไม่เพียงแต่เน้นการพัฒนาด้านการศึกษา คุณภาพชีวิตที่ดี การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเท่านั้น เรายังสนับสนุนการสร้างอาชีพให้คนพิการ การพัฒนาสินค้าชุมชน หลากหลายแนวทาง พัฒนาผลิตภัณฑ์ สนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการรับซื้อสินค้าเกษตรกร เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนและส่งเสริมความยั่งยืนจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ รวมทั้งการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและเพิ่มพื้นที่สีเขียว อีกทั้งยังส่งเสริมการสร้างรายได้ควบคู่กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยการต่อยอดการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบวิถีชุมชน”
พิชัย กล่าวต่อเนื่องที่กลุ่มเซ็นทรัล นำจุดเด่นทางธุรกิจมาส่งต่อด้วย CSV โดยนำสิ่งที่เซ็นทรัลมีความเชี่ยวชาญหลายด้าน เช่นเรื่องนวัตกรรม ก็ส่งต่อเรื่องนี้ให้ชุมชนลงมือทำ ซึ่งแสดงจุดยืนในการสานต่อโครงการพัฒนาชุมชนและสังคมใน 4 มิติ คือ การสร้างอาชีพที่มั่นคง (Better Work) การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี (Better Life) การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี (Better World) และการสร้างสังคมที่ดี (Better Society) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน (Sustainability)
ทั้งนี้ตัวอย่างโครงการสำคัญของ “เซ็นทรัล ทำ” ในปี 2563 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เช่น
1.โครงการคนพิการ
จุดเริ่มต้นจากการที่จะเปลี่ยนมุมมองในสังคมให้กับกลุ่มคนที่แตกต่างเพื่อสร้างการอยู่ร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในสังคม ด้วยศักยภาพที่กลุ่มเซ็นทรัลมีจึงส่งเสริมการสร้างโอกาสการจ้างงาน และส่งเสริมอาชีพให้กับคนพิการให้เป็นพนักงาน Contact Call Center ณ ศูนย์พระมหาไถ่ การส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาอาชีพคนพิการ ในปี 2563 กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือ เช่น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) มีการส่งเสริมอาชีพให้คนพิการอย่างต่อเนื่อง และด้วยความมุ่งมั่นในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำให้กับคนพิการ กลุ่มเซ็นทรัลจึงเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ได้รับรางวัลองค์กรสนับสนุนคนพิการดีเด่นถึง 4 ปีซ้อนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรางวัลองค์กรสนับสนุนคนพิการดีเยี่ยม ประจำปี 2563
2.โครงการภูชี้เดือน
จากเดิมที่ภูชี้เดือนเคยเป็นเขาหัวโล้นเพราะการถางพื้นที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งส่งผลต่อชุมชนบนที่สูง และที่ราบด้วย ฉะนั้นในพื้นที่ที่เป็นเขาหัวโล้นเมื่อจะปลูกกาแฟจึงต้องเริ่มจากการปลูกพืชให้ร่มเงาเสียก่อน ซึ่งการส่งเสริมให้ปลูกไม้ผล จะแนะนำให้ปลูกพืชหลากหลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน อย่างน้อยก็ 4-5 ชนิด เมื่อพอมีร่มเงาจึงปลูกกาแฟแซมเข้าไปได้ เริ่มต้นปลูกกาแฟเมื่อประมาณปี พ.ศ.2527 หลังจากที่มีการเข้าไปส่งเสริมด้านการเกษตร ทำให้ปัจจุบันสีเขียวของป่าคืนกลับมา มีชาวเขาเข้าไปปลูกต้นไม้และช่วยกันดูแลพื้นที่ไม่ให้มีการตัดต้นไม้อีกด้วย ในปี 2563 ที่ผ่านมา การฟื้นฟูผืนป่าด้วยการร่วมรณรงค์ปลูกป่ากับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) สามารถฟื้นคืนผืนป่าไปแล้วกว่า 500 ไร่
3.โครงการสมุยโมเดล
เป็นโครงการที่เราได้ส่งเสริมให้เป็นเมืองต้นแบบด้านการจัดการขยะตามแนวเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) “Samui Zero Waste” ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เน้นการจัดการขยะจากต้นทาง มีการนำเศษอาหารที่คัดแยกจากพนักงานมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อต่อยอดเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่และแก๊สชีวภาพที่สามารถนำไปประกอบอาหารกลางวันให้กับนักเรียนและใช้เพื่อการเรียนรู้ด้านการทำอาหารและการโรงแรมของนักศึกษา
4.โครงการนาหมื่นศรี
กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งเน้นที่จะคงเอกลักษณ์ท้องถิ่น และสืบสานวัฒนธรรม ซึ่งถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่หล่อหลอมสังคมในปัจจุบัน และเชื่อว่าชุมชนคือผู้สืบทอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น การที่กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าไปส่งเสริมพัฒนาชุมชนให้แข็งแรงเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งพิพิธพัฒน์ผ้าทอนาหมื่นศรี คือ ศูนย์รวมผ้าทอที่มีประวัติศาสตร์ 200 ปี ของผ้าเอกลักษณ์ไทย กลุ่มเซ็นทรัลเข้าไปปรับปรุงและส่งเสริมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มุ่งเน้นการสร้างอาชีพให้กับชุมชนโดยรอบ
5.โครงการจริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต
เกิดจากการที่กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นสนับสนุนอาหารปลอดภัยให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผักและผลไม้ที่ไม่ใช้สารเคมี และส่งเสริมให้มีการปลูกผักปลอดสารเคมี อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกรท้องถิ่นนำพืชผักปลอดภัยและสินค้าชุมชนมาจำหน่าย ในพื้นที่ของกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล เช่น ท็อปส์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ปัจจุบันเปิดแล้ว 23 สาขา และมีแผนจะเพิ่มเป็น 34 สาขาในปี 2564 ซึ่งในปี 2563 ได้สร้างรายได้ให้กับชุมชน มากกว่า 193 ล้านบาท
“จากจริงใจภูมิภาคที่คนในท้องถิ่นได้กินผักผลไม้อินทรีย์ท้องถิ่น เป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับชุมชนเช่นที่อุดรธานี ต่อไปจะมีจริงใจ Flagship เซ็นทรัล บางนา ส่วนเซ็นทรัลเวิลด์จะเปิดจริงใจปลายปี 2564 จะมีผักผลไม้ที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเราจะเน้นอินทรีย์ หากพบว่ามีสารเคมีปนเปื้อนต้องนำออก เรื่องนี้สำคัญ อย่างรูปทรงของผักผลไม้ยังคุยกันได้ เรื่องเหล่านี้เราได้มีการพูดคุยกัชุมชนที่เราทำงานด้วย และมีนิสิตนักศึกษามาร่วมทำงานตรงนี้ด้วย”
พิชัย ขยายความต่อเนื่อง “เซ็นทรัล ทำ” ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือ เช่น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น มหาชน (จำกัด) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ยังคงยึดมั่นในการสนับสนุนและช่วยเหลือสังคมด้วยการสร้างอาชีพ เสริมรายได้ การลดค่าครองชีพ และการส่งเสริมสุขภาพ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่ต้องการนำความเชี่ยวชาญของกลุ่มธุรกิจมาเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก ลดความเลื่อมล้ำในสังคม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
“ตลอดเวลากว่า 73 ปีของการดำเนินธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัล เรามีเจตนารมณ์อย่างแรงกล้าที่จะร่วมรับผิดชอบและมีส่วนร่วมต่อสังคมด้วยการขับเคลื่อนโครงการ เซ็นทรัล ทำ ด้วยการร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งพนักงาน ประชาชน ภาคีเครือข่าย เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง และสังคมเติบโตอย่างยั่งยืน” พิชัยกล่าวในท้ายที่สุด