ALTERNATIVE

อุตสาหกรรมอาหารทะเล หลัง Covid-19 ยกเครื่องกระตุ้นการเติบโตประมงขนาดเล็ก

18 พฤษภาคม 2563…ผู้ผลิตอาหารทะเลทั่วโลก ไม่มีตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเนื่องจากความต้องการลดลง และห่วงโซ่อุปทานพิการ

อุตสาหกรรมอาหารทะเลเป็นที่รู้จักว่ามีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนและมีการควบคุมมากที่สุด แต่การระบาดของ COVID-19 ได้เน้นถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาวประมงและผู้บริโภค

การระบาดของ COVID-19 บังคับให้ผู้คนหลายพันล้านคน ทั้งที่เคยอยู่ในบ้าน และอยู่บนถนนสงบลง ตอนนี้มหาสมุทรก็เป็นเช่นเดียวกัน การระบาดของโคโรนาไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลกในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และทำให้ทั้งโลกต้องหยุดชะงักความต้องการที่ลดลงในภาคส่วนใหญ่รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารทะเล

การประมงเป็นหนึ่งในธุรกิจแรกที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจากการระบาดของ COVID-19 เนื่องจากการได้รับผลกระทบอย่างหนักจากจีนทั้งการบริโภคและการผลิต ประเทศจีนเพียงอย่างเดียวคิดเป็น 62 % ของการผลิตสัตว์น้ำทั่วโลก

การระบาดของโรคใกล้เคียงกับวันหยุดปีใหม่ของจีนซึ่งโดยทั่วไปเป็นช่วงเวลาที่ความต้องการอาหารทะเลของออสเตรเลียสูงสุด แต่คำสั่งซื้อเกี่ยวกับการประมงกลับแห้งผากแม้ราคาจะลดลง การระบาดเกิดขึ้นจากตลาดค้าส่งอาหารทะเล Huanan ของหวู่ฮั่น และการที่รัฐบาลจีนจำกัดการค้าอาหารทะเลอย่างรวดเร็วบางส่วนเพื่อป้องกันการระบาด

ราคาของกุ้งก้ามกราม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลของออสเตรเลียลดลง 50-80 % และแม้แต่กุ้งก้ามกรามเมนชื่อดังระดับโลกก็ยังถูกขาย “ในจำนวนที่พวกเขาไม่ควรขาย”

ส่วนผู้ส่งออกอาหารทะเลของเวียดนาม ต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างหนักจากการระบาดของ COVID-19 และสมาคมผู้ส่งออกอาหารทะเลของประเทศแถลงว่า มีการยกเลิกสัญญา หรือส่งออกล่าช้ากว่า 50% ของความต้องการในอุตสาหกรรม

การส่งออกปลาไปยังจีน ถูกระงับในช่วงปลายเดือนมกราคมเนื่องจากมาตรการเข้มงวดเรื่องการระบาด และลูกค้าในส่วนอื่น ๆ ของโลกเริ่มที่จะยกเลิก และชะลอการสั่งซื้อเนื่องจากการแพร่ระบาดทั่วโลก สมาคมผู้ส่งออกอาหารทะเล กล่าวว่า. “สินค้าคงเหลือพะเนินเทินทึก เนื่องจากผู้ส่งออกและคลังสินค้าของผู้ผลิตขาดพื้นที่จัดเก็บ แม้พวกเขาจะลดราคาลง 25% -30% แล้วก็ตาม”

งานแสดงอาหารทะเลใหญ่ที่สุดในโลก 2 งาน คือ งานเอ็กซ์โปซีฟู้ดอเมริกาเหนือ และงานเอ็กซ์โปซีฟู้ด โกลบอล ที่จัดขึ้นในเดือนมีนาคมและเมษายนตามลำดับ ได้เลื่อนการส่งมอบให้กับบริษัท อาหารทะเลอีกครั้งเนื่องจากต้องยืนยันคำสั่งซื้อขนาดใหญ่

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม

ในสหรัฐอเมริกา รายงานขององค์การบริหารวัตถุดิบทางทะเลและบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ในปี 2560 ระบุว่า ร้านค้าปลีกอาหารซึ่งรวมถึงร้านอาหาร บริการจัดส่ง และบริการจัดเลี้ยง มีต้นทุนผลิตภัณฑ์อาหารทะเลมากถึง 70% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่บรรดาร้านอาหารถูกปิดเนื่องจากการล็อคดาวน์ หรือเนื่องจากความต้องการลดลง เพราะผู้คนหลีกเลี่ยงการติดต่อกับคนอื่นโดยไม่จำเป็น การชะลอตัวของภาคการบริการส่งผลอย่างหนักกับบริษัทผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารทะเลยากเป็นพิเศษ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากร้านอาหาร

อย่างไรก็ตาม บริษัทขายอาหารทะเลบรรจุกระป๋องมีความโล่งใจท่ามกลางการล่มสลายของภาคธุรกิจ เนื่องจากผู้บริโภคกำลังสะสมอาหารกระป๋อง เช่น ทูน่าและอาหารทะเลอื่น ๆ แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีกำไรเล็กน้อย และมีแนวโน้มว่าจะเป็นแบบนี้ไม่นานนัก

อุตสาหกรรมอาหารทะเลในปี พ. ศ. 2563 มีความเป็น Globalized มากขึ้นกว่าเดิม แสดงให้เห็นจากข้อเท็จริงที่ว่า ปลาที่ได้รับความนิยมในน่านน้ำจีนสามารถพบได้ง่ายในเมนูต่างๆ เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและบราซิล การนำเข้าปลาทั่วโลกมีมูลค่าสูงกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยสหรัฐฯมีสัดส่วนมากที่สุดโดยนำเข้าอาหารทะเลมูลค่ากว่า 22 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561

แต่ตลาดต่างประเทศเหล่านี้เหือดหายไประหว่างการระบาดของโรคระบาด เนื่องจากความต้องการที่ลดลงอย่างมากในร้านอาหาร และสถานประกอบการอาหารอื่น ๆ ในทางกลับกัน การจำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงักในทุกระดับ และซัพพลายเออร์ก็พบว่ามันยากที่จะเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์เนื่องจากการจำกัดการเข้าถึงโลจิสติกส์

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ประกาศโดยรัฐบาลทั่วโลกนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารทะเล และได้รับการจัดสรรเงินทุนสำหรับผู้ค้าเหล่านี้ แพ็คเกจช่วยเหลือมูลค่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐที่ประกาศโดยรัฐบาลสหรัฐ จัดสรรเงิน 300 ล้านเหรียญสำหรับผู้ประกอบการอาหารทะเลที่ประสบความสูญเสียมากกว่า 35 % รวมถึงการยังชีพการประมงเชิงพาณิชย์ รวมถึงฟาร์มเลี้ยงปลา

รัฐบาลออสเตรเลียได้จัดสรรเงินจำนวน 110 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (69 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเป็นกลไกการช่วยเหลือการขนส่งสินค้าแบบใหม่เพื่อการค้าส่งออกอาหารทะเล

แต่ความเข้มข้นของตลาดในอุตสาหกรรมอาหารทะเลอยู่ในระดับต่ำ และธรรมชาติของอุตสาหกรรมเป็นเช่นนี้ที่ชาวประมงขนาดเล็กจำนวนมากมีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อกำไรเล็กๆน้อยๆ การเข้าถึงผู้ค้าเหล่านี้จะเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลและหลายคนอาจไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันทางการเงินในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

มันค่อนข้างยากที่จะหาเรื่องดีๆ เมื่ออุตสาหกรรมอยู่ในสภาพหลังชนฝา แต่การระบาดของโรคได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเล รวมถึงผู้ค้ารายย่อย และผลประโยชน์เหล่านี้อาจกลายเป็น Disruptionในระยะยาวซึ่งสามารถปรับรูปโฉมของตลาด การเปลี่ยนแปลงของตลาด และความต้องการที่ลดลงของร้านอาหารกำลังบังคับให้ชาวประมงนำรูปแบบการส่งสินค้าตรงไปยังผู้บริโภคเพื่อให้อยู่รอดได้ในภาวะวิกฤติ

บรรดาชาวประมงยังตระหนักถึงประโยชน์ของการขายผลิตภัณฑ์ให้กับท้องถิ่นก่อน และยอมรับเรื่องการรวมกลุ่มเพื่อ ขยายขอบเขตการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกว้างขวางกว่าเดิม

การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถปูทางไปสู่ห่วงโซ่อุปทานที่ดีกว่า และไม่ถูกทอดทิ้งซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและชาวประมงเนื่องจากห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนซึ่งสนับสนุนโดยธุรกิจขนาดใหญ่มักผลักดันราคาขายปลีก แต่ผลประโยชน์ ไม่ถึงชาวประมงเสมอไป

อนาคต หลัง COVID 19 กลยุทธ์สำหรับธุรกิจท้องถิ่น

เซ็คเตอร์อาหารทะเลเป็นโลกาภิวัฒน์มานานหลายปีแล้ว แต่การค้าอาหารทะเลในท้องถิ่นสามารถเป็นประโยชน์ต่อทั้งชาวประมงและผู้บริโภค ชาวประมงได้รับประโยชน์จากค่าใช้จ่ายที่ลดลง การเข้าถึงตลาดใหม่ ความต้องการที่คาดการณ์ได้ และความสามารถในการนำรูปแบบส่งสินค้าตรงไปสู่ผู้บริโภค ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าอาหารทะเลของพวกเขาจะยั่งยืนและสดใหม่จากทะเล

ในช่วงเวลาของการระบาดของ COVID-19 ผู้ผลิตอาหารทะเลกำลังตระหนักถึงประโยชน์ของการมีเครือข่ายการค้า ขณะที่ผู้บริโภคและรัฐบาลต่างตระหนักถึงความจำเป็นในการสนับสนุนการประมงท้องถิ่น

ชาวประมงขนาดเล็กยอมรับการประมงที่สนับสนุนโดยชุมชน (CSFs) มากขึ้น และชุมชน CSF เหล่านี้สามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการค้าในท้องถิ่น CSFs เป็นกลุ่มของชาวประมงแต่ละคนหรือบริษัทที่ดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของสมาชิกทั้งหมด โดยทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักหน่วยงานเดียว หน่วยงานเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้กว้างขึ้น ควบคุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ส่งตรงไปยังผู้บริโภค ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมาก และเพิ่มส่วนต่างกำไรด้วย

ภาพ : โครงการอาหารทะเลประมงพื้นบ้านสู้ #COVID19 โดยสมาคมรักษ์ทะเลไทย

การพึ่งพาจีน

Coronavirus กำลังเร่งการเปลี่ยนแปลงที่เคยเป็นอยู่ จีนเคยเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในการผลิตและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำระดับโลกเป็นเวลาหลายปี แต่ต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น และความตึงเครียดทางการค้าได้ผลักดันห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเลออกไปจากจีนในปีที่ผ่านมา

การช็อกของ coronavirus ต่อห่วงโซ่อุปทานจะตอกย้ำความเชื่อของบริษัทที่ทำงานในเซ็คเตอร์นี้ และกระตุ้นให้มีการใช้นโยบายที่มองเข้าสู่ภายในมากขึ้นสำหรับการแปรรูปอาหารทะเล ประเทศที่ไม่มีแหล่งวัตถุดิบที่ดีสำหรับการแปรรูปภายในประเทศ จะพยายามหลีกเลี่ยงการวางไข่ทั้งหมดไว้ในตระกร้าใบเดียว

ประเทศอื่นๆในเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกแทนจีนเป็นเวลาหลายปี และการเปลี่ยนผ่านจะได้รับการสนับสนุนต่อไปจากโรคระบาดครั้งนี้ การลดการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งและเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานก็จะช่วยลดภาระในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่มากเกินไปในประเทศเหล่านี้เป็นเวลาหลายปี

การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน

เซ็คเตอร์อาหารทะเลมีขอบเขตการปรับห่วงโซ่อุปทานอย่างมาก และการระบาดของ COVID-19 ได้เปิดเผยถึงข้อบกพร่องโดยเน้นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการ

ค้าปลีกออนไลน์

อีคอมเมิร์ซเติบโตต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การปรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารทะเลเป็นไปอย่างล่าช้า ขณะที่พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจะผลักดันให้เกิดการเติบโตของการค้าปลีกอาหารทะเลออนไลน์เช่นเรียกร้องให้ยกเครื่องในการขายอาหารทะเล จากการหีบห่อ ไปจนถึงการติดต่อสื่อสารรูปแบบการจัดส่ง

ห่วงโซ่อุปทานที่มีการสัมผัสต่ำ

ผู้คนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการบริโภคอาหารทะเล เนื่องจากการระบาดของโรค และการค้าปลีกอาหารทะเลสดอาจเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้บริโภคคาดหวังถึงบรรจุภัณฑ์ที่ถูกสุขอนามัยมากขึ้นและลดการสัมผัสของมนุษย์ตามห่วงโซ่คุณค่า ปลาที่บรรจุไว้ล่วงหน้า ซึ่งตรงกันข้ามกับตลาด “สด” สามารถให้ความสดใหม่แก่ผู้คนที่ต้องการจากอาหารทะเล แต่ให้ความมั่นใจมากขึ้น

ห่วงโซ่อุปทานดิจิตอล

ความต้องการในการลดการสัมผัสของมนุษย์ และประโยชน์ที่เป็นไปได้ในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยผลักดันการปรับใช้เครื่องมือดิจิตอลและระบบอัตโนมัติในห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจจุดประกายวิธีการใหม่ ๆ ของสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในประเด็นสำคัญของธุรกิจ

Bottom Line

เซ็คเตอร์อาหารทะเลเป็นที่รู้จักกันว่ามีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนมากที่สุด แต่การระบาดของ COVID-19 ได้เน้นถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาวประมงและผู้บริโภค ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ควบคุมห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมมักตักตวงกำไรไปจากชาวประมงและผู้ผลิตอาหารทะเล

แต่การประมงที่ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนมากขึ้น สามารถทำให้ชาวประมงแต่ละคนกลับมาอยู่บนแผนที่อีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วย

กับโลกาภิวัตน์ในอุตสาหกรรมอาหารทะเล มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้บริโภคในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย แต่มันก็ทำให้อุตสาหกรรมมีความยืดหยุ่นน้อยเมื่อถูกแรงปะทะจากภายนอก ห่วงโซ่อุปทานที่หลากหลาย และนโยบายที่ต้องศึกษาอย่างลึกซึ้งจากภายใน เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าการจัดหาอาหารทะเลที่สอดคล้องและยั่งยืน สามารถเป็นอาหารของคนหลายพันล้านคนทุกปี

ที่มา

 

You Might Also Like