16 กันยายน 2567…ปี 2090 อาจไม่มีการปลูกบนพื้นที่สูงอีกต่อไปในไร่นาและในครัว ทั้งเชิงพาณิชย์และในครัวเรือน เกษตรกรและผู้ผลิตกิมจิต่างรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง
กิมจิชื่อดังของเกาหลีใต้ กำลังตกเป็นเหยื่อของภาวะโลกร้อน โดยนักวิทยาศาสตร์ เกษตรกร และผู้ผลิตต่างกล่าวว่าคุณภาพและปริมาณของกะหล่ำปลีที่ดองเพื่อทำอาหารจานนี้กำลังได้รับผลกระทบเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นกะหล่ำปลีเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่เย็นกว่า และมักปลูกในพื้นที่ภูเขา ซึ่งอุณหภูมิช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นฤดูปลูกผักที่สำคัญแทบไม่เคยสูงเกิน 25 องศาเซลเซียส (77 องศาฟาเรนไฮต์)
การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า สภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังคุกคามพืชผลเหล่านี้อย่างมาก จนทำให้สักวันหนึ่งเกาหลีใต้อาจไม่สามารถปลูกกะหล่ำปลีเนื่องจากความร้อนเพิ่มสูง
“เราหวังว่าคำทำนายเหล่านี้จะไม่เป็นจริง กะหล่ำปลีชอบเติบโตในสภาพอากาศเย็นและปรับตัวให้เข้ากับอุณหภูมิต่ำกว่าเล็กน้อยได้ อุณหภูมิที่เหมาะสมคือระหว่าง 18 ถึง 21 องศาเซลเซียส” ลี ยัง กิว นักพยาธิวิทยาพืชและนักไวรัสวิทยา กล่าว กิมจิหมักรสเผ็ดทำจากผักชนิดอื่นๆ เช่น หัวไชเท้า แตงกวา และต้นหอม แต่เมนูยอดนิยมที่สุดยังคงทำจากกะหล่ำปลี
ลี ฮายอน ผู้เชี่ยวชาญด้านกิมจิจากกระทรวงเกษตร ได้อธิบายถึงผลกระทบของอุณหภูมิที่สูงขึ้นต่อผักชนิดนี้ว่า กะหล่ำปลี “จะเน่าเสีย และรากจะเละ”
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เราอาจต้องเลิกทำกิมจิกะหล่ำปลีในฤดูร้อน” ลี ซึ่งตำแหน่งของเธอสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนสนับสนุนด้านวัฒนธรรมอาหาร กล่าว
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติของรัฐบาลระบุว่า พื้นที่ปลูกกะหล่ำปลีบนที่สูงปีที่แล้วอยู่ที่ 3,995 เฮกตาร์ (9,872 เอเคอร์) น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 8,796 เฮกตาร์ (21,735 เอเคอร์)
ตามข้อมูลของสำนักงานบริหารการพัฒนาชนบท ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยด้านการเกษตรของรัฐ ระบุว่า สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคาดการณ์ว่าพื้นที่เพาะปลูกจะลดลงอย่างมากภายใน 25 ปีข้างหน้า เหลือเพียง 44 เฮกตาร์ (109 เอเคอร์) และภายในปี 2090 จะไม่มีการปลูกกะหล่ำปลีในพื้นที่สูงอีกต่อไปนักวิจัยระบุว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้น ฝนตกหนักแบบคาดเดาไม่ได้ และแมลงศัตรูพืชที่ควบคุมได้ยากขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่อบอุ่นและยาวนานขึ้น เป็นสาเหตุของผลผลิตที่หดตัว
เชื้อราที่ทำให้พืชเหี่ยวเฉาเป็นปัญหาสำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะ เนื่องจากจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนช่วงใกล้เก็บเกี่ยว ภาวะโลกร้อนยังทำให้ปัญหาต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมกิมจิของเกาหลีใต้ คือ ต้องต่อสู้กับการนำเข้ากิมจิราคาถูกจากจีน ซึ่งส่วนใหญ่เสิร์ฟในร้านอาหาร
ข้อมูลของกรมศุลกากรที่เผยแพร่แสดงให้เห็นว่าการนำเข้ากิมจิจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 6.9% เป็น 98.5 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยเกือบทั้งหมดมาจากจีน และถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว จนถึงขณะนี้ รัฐบาลได้พึ่งพาการจัดเก็บแบบควบคุมอุณหภูมิในปริมาณมากเพื่อป้องกันราคาพุ่งสูงและปัญหาการขาดแคลน นักวิทยาศาสตร์ยังเร่งพัฒนาพันธุ์พืชที่สามารถเติบโตได้ในภูมิอากาศที่อบอุ่นกว่า และทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝนและการติดเชื้อได้ดีกว่า
แต่เกษตรกรอย่างคิม ซี-กาป วัย 71 ปี ซึ่งทำงานในไร่กะหล่ำทางตะวันออกของกังนึงมาตลอดชีวิต กลัวว่าพันธุ์เหล่านี้จะมีราคาแพง นอกจากนี้ยังมีรสชาติที่ไม่ค่อยดีอีกด้วย
“เมื่อเราเห็นรายงานที่บอกว่าจะมีช่วงเวลาหนึ่งในเกาหลีที่เราไม่สามารถปลูกกะหล่ำปลีได้อีกต่อไป แง่หนึ่งมันเป็นเรื่องน่าตกใจ และน่าเศร้าในเวลาเดียวกันเราอาจไม่ได้กินกิมจิบนโต๊ะอีกต่อไป เราจะทำอย่างไรหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น?” คิมกล่าว
ที่มา