26 เมษายน 2563…พัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ก้าวไกลในปัจจุบัน จะต้องเป็นปฏิปักษ์กับการให้ความสำคัญกับโลกสีเขียว การรักษาสิ่งแวดล้อมและการเติบโตที่ยั่งยืนเสมอไปจริงหรือ … ไม่น่าจะใช่?!?!
ถ้าเรามองไปรอบตัวเราในวันนี้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากจนไม่อาจปฏิเสธได้ ทำให้การดำเนินชีวิตสะดวกขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และในหลายครั้ง ทำให้เราใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยลง สร้างของเสียน้อยลง ทำให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยั่งยืนมากขึ้น และไม่ “Waste” เกินจำเป็น
ในด้านเศรษฐกิจพื้นฐาน นวัตกรรมที่เกี่ยวกับการควบคุมดูแลทางการเกษตร เช่น ระบบชลประทานจากการบำบัดน้ำเสีย การคิดค้นพันธุ์พืชที่ใช้น้ำน้อยแต่ให้ผลผลิตต่อไร่ดี มีความต้านทานศัตรูพืช ช่วยลดการใช้การใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และพื้นที่เพาะปลูกแต่ยังได้ผลผลิตเท่าเดิม เหลือที่ไว้สำหรับป่าชุมชนได้เจริญเติบโต เพิ่มการหมุนเวียนน้ำ และไม่สร้างสารเคมีตกค้างในดิน เป็นต้น
สำหรับสังคมเมือง ช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ที่เราใช้มาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” แต่องค์กรทางธุรกิจหลายแห่งยังคงเดินหน้าสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับลูกจ้าง และขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอยู่ต่อไปเช่นนี้ คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีนวัตกรรมที่อำนวยความสะดวก การ Work from Home เช่น การประชุมผ่าน VDO Call การเรียนผ่าน Virtual Classroom หรือแม้แต่ Application สั่งอาหารและของใช้จำเป็น ที่ล้วนเป็นผลจากนวัตกรรมที่อำนวยความสะดวกให้ชีวิต และในขณะเดียวกันก็ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ลดการเผาผลาญน้ำมัน ลดการสร้าง Carbon Footprint ส่วนเกิน ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก และการทำลายโอโซนในบรรยากาศด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่า นวัตกรรมกับการรักษาไว้ซึ่งโลกสีเขียว มีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันในมุมที่กว้างขวางอย่างยิ่ง นวัตกรรมที่ดี จะมีส่วนช่วยให้สังคมและโลกของเราก้าวหน้าต่อไปได้ โดยไม่ทำลายการเติบโตที่ยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะที่วันที่ 26 เมษายน 2563 เป็นวันทรัพย์สินทางปัญญาโลก ขอเชิญท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่มุมมองความสัมพันธ์ดังกล่าวภายใต้แนวคิด “Innovate for a Green Future” โดยเข้าร่วมการประกวดภาพถ่ายกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อแสดงมุมมองความเชื่อมโยงระหว่างนวัตกรรมและการเติบโตที่ยั่งยืน และร่วมชิงของรางวัลมากมายไปด้วยกันนะครับ
เรื่องโดย Sirapat Vajraphai
ที่มา