29 ตุลาคม 2567…ลงนามความร่วมมือเพื่อผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel – SAF) โดยใช้วัตถุดิบจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ซึ่งจัดเก็บจากร้านอาหารและโรงงานผลิตอาหารของซีพีเอฟ เช่น ร้านไก่ย่างห้าดาว เชสเตอร์ ที่มี 5,000 สาขาทั่วประเทศ ความร่วมมือนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้พลังงานที่ยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม
ความสำคัญของ SAF
ในการลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมการบิน
SAF นับเป็นหนึ่งในพลังงานสะอาดที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการบินได้อย่างมีนัยสำคัญ
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ อธิบายว่า
“การผลิต SAF มีศักยภาพในการลดคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการผสม SAF 1%ในปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 3%ในปี 2023 จากนั้นจะอยู่ปริมาณ 5% บางจากฯ มีเป้าหมายการผลิตน้ำมัน SAF เริ่มต้นอยู่ที่ 1 ล้านลิตรต่อวัน สำหรับการบินในระดับโลกก็เริ่มมีการบังคับใช้ส่วนผสม SAF เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในหลายประเทศ เช่น สหภาพยุโรปที่กำหนดให้ผสมน้ำมัน SAF ในอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายในปี 2573”
ระบบการรวบรวม
และรีไซเคิลน้ำมันใช้แล้วจากซีพีเอฟ
“ซีพีเอฟมีระบบการจัดการรวบรวม และรีไซเคิลน้ำมันใช้แล้วอย่างมีประสิทธิภาพ โดยน้ำมันเหล่านี้จะมาจากการปรุงอาหารในโรงงานแปรรูป และเครือข่ายร้านอาหารของบริษัท ซึ่งจะใช้น้ำเพียง 2 ครั้งเท่านั้น โดยที่ผ่านมาน้ำมันใช้แล้วดังกล่าวเราจะนำไปใช้ในเครื่องยนต์ที่ใช้งานในโรงงาน คล้าย ๆ น้ำมันไบโอดีเซล ซีพีเอฟมีการใช้น้ำมันปรุงอาหารในธุรกิจแปรรูปไก่ถึง 100,000 ตันต่อปี”
ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ระบุว่าน้ำมันที่ผ่านการใช้งานเหล่านี้สามารถช่วยลดปริมาณวงจรของเสีย และสามารถสร้างมูลค่าใหม่ผ่านการผลิต SAF ได้ บริษัทตั้งเป้าร่วมมือกับบางจากฯ เพื่อนำน้ำมันใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการผลิต SAF
เป้าหมายการผลิต
และการขยายตัวของ SAF ในอนาคต
สำหรับโรงงานผลิต SAF ใหม่ของบางจากฯ ที่ตั้งอยู่ในโรงกลั่นพระโขนง คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเริ่มต้น 1 ล้านลิตรต่อวัน นอกจากการตอบสนองความต้องการในประเทศไทยแล้ว บางจากฯ และซีพีเอฟยังเตรียมแผนขยายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการระดับภูมิภาคด้วยการจัดหาน้ำมันใช้แล้วจากเครือข่ายในประเทศอื่น ๆ ที่ซีพีเอฟมีโรงงาน
ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของทั้งสองบริษัท และถือเป็นหนึ่งในการดำเนินการด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ climate action โดยการบริหารการลดของเสียจากกระบวนการผลิตที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมให้มีมูลค่า ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างครบวงจร หรือ Circular Economy