CIRCULAR ECONOMY

ในยุคนี้นักลงทุนสถาบันถามเรื่องพื้นฐาน “การลงทุน&บริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมบริษัททำอะไรบ้าง?”

26 สิงหาคม 2563…ดีแทค “ทิ้งให้ดี” คือ 1 ในคำตอบ โดยคัดเลือกบริษัทที่ให้บริการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากล จัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อคืนโลหะมีค่าและวัตถุดิบสำคัญ สู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ได้ 96-98% ของจำนวนขยะที่เก็บได้ และ TES เป็นบริษัทรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีแทคเลือก ให้จัดการขยะอย่างมีความรับผิดชอบ


อรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอคเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวถึงนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของดีแทคจะมีสิ่งที่โฟกัสอยู่หลายเรื่อง อาทิ เรื่องของห่วงโซ่อุปทาน เรื่องของเยาวชน เรื่องของสปอนเซอร์ชิพ-การบริจาค เรื่องสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

“สิ่งที่ Ontop ที่สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์องค์กร คือปัจจัยความมุ่งมั่นที่บริษัทต้องทำเรื่องความยั่งยืน เป็น Requirement ที่ชัดเจน เมื่อก่อน IR ไม่ต้องตอบเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ตอนนี้ IR ต้องตอบอย่างชัดเจน ขยะอิเลคทรอนิกส์กำลังจะเป็นประเด็นสำคัญมาก เราเห็นเทรนด์การใ้ช้สมาร์ทโฟน สมาร์ท ดีไวซ์ต่าง ๆ มากมาย และจะมีผลกระทบต่อธุรกิจที่เราดำเนินอยู่ จึงต้องบริหารจัดการ กำจัดขยะอิเลคทรอนิคส์ที่เกิดขึ้น ดีแทคเองขายมือถือเฉลี่ยมากกว่า 5 แสนเครื่องต่อปี เราต้องบริหารจัดการขยะจากลูกค้าที่ซื้อไปตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาโดยเราคัดเลือกบริษัทที่รีไซเคิลไ้ด้มาตรฐาน”

ดีแทคเริ่มต้นที่กระบวนการจัดหาบริษัทรีไซเคิลตามนโยบายการจัดซื้อจัดหาสินค้าและบริการ ด้วยการประเมินความเสี่ยงด้านต่างๆ อาทิ ธรรมาภิบาล การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ผู้รับกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์จะต้องลงนามในเอกสารว่าด้วยข้อตกลงในการปฏิบัติธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Agreement of Responsible Business Conduct และต้องแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการประเภท 106 ออกโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยระบุประเภทกิจการที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดหรือรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ และต้องมีใบรับรองมาตรฐาน NIST 800-88R1 ซึ่งเป็นมาตรฐานการกำจัดข้อมูลต่าง ๆ ที่ยังอาจคงค้างอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก

ดีแทคมีหน่วยงานกำกับดูแลห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Sustainability Management) ทำหน้าที่ตรวจประเมินบริษัทผู้ให้บริการรีไซเคิลเหล่านี้เป็นประจำทุกปี เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทผู้ให้บริการที่ได้รับคัดเลือกมานี้ยังคงรักษามาตรฐานกระบวนการรีไซเคิล มีการพัฒนาระบบการทำงานและเทคโนโลยีอยู่เสมอ

อรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน ดีแทค รัชญา กุลณพงษ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายความยั่งยืน ดีแทค ร่วมเยี่ยมชมการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่บ้านของ TES หลังใหม่ โดยมี ลุค เบอรนาร์ดุส สโคลเตอ แวน มาสท์ Managing Director TES และกรวิกา ชัยประทีป Sales & Marketing Manager, TES นำชม

สู่เป้าหมาย Zero Landfill

ดีแทคทำงานร่วมกับเทสมานาน 8 ปี เมื่อเทสรับซากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากโครงการ “ทิ้งให้ดี” มาถึงยังโรงงานแล้ว เทสจะทำการตรวจนับและชั่งน้ำหนัก เพื่อรายงานจำนวนและน้ำหนักและสถานที่รับเพื่อแจ้งให้ดีแทคทราบและยืนยันว่าได้รับอุปกรณ์เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นจะนำเข้าพื้นที่จัดเก็บและจะทำการคัดแยกวัสดุตามประเภทหลักๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ หูฟัง สายชาร์ตแบตเตอรี่ พาวเวอร์แบงค์ เป็นต้น เพื่อนำวัสดุหลักดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการแกะแยก

ยกตัวอย่าง โทรศัพท์มือถือ หลังการแกะแยกจะทำการบรรจุวัสดุตามแต่ละประเภท วัสดุทั้งหมดจะถูกนำส่งออกไปยังโรงงานของเทสที่สิงคโปร์ เพื่อทำลายหน่วยความจำในเครื่อง และสกัดเป็นโลหะมีค่า ได้แก่ ทองคำ ทองแดง พาราเดี้ยม เหล็ก อลูมิเนียม ลิเทียม และวัสดุประเภทพลาสติก เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าใหม่ต่อไป เรียกว่ารีไซเคิลได้ 100% ทั้งเครื่อง หากกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ 96-98% ของขยะทั้งหมดที่ดีแทคเก็บได้ สามารถนำเข้าสู่กระบวนกำจัดที่ถูกต้อง และช่วยลดการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ลดการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์หรือลดคาร์บอนฟุตพรินต์ รวมทั้ง ไม่ทิ้งเศษซากขยะเป็นขยะฝังกลบเลย หรือ Zero Landfill ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555

ทำไมต้อง “ทิ้งให้ดี”

ผลการสำรวจพฤติกรรมการจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์เมื่อไม่ใช้งานแล้วของสำนักสิ่งแวดล้อม พบว่า กว่าร้อยละ 50% ของผู้ใช้งานจะเลือกขายซากขยะอิเล็กทรอนิกส์กับผู้รับซื้อของเก่า หรือ รถขายของเก่า ซึ่งมักจะนำขยะไปแยกชิ้นส่วน โดยจะเลือกเฉพาะส่วนที่มีมูลค่าเพื่อนำไปขายต่อได้ และจะกำจัดซากขยะที่เหลือด้วยการทิ้งปะปนกับขยะทั่วไป ปัญหาสำคัญ คือ การทิ้งซากผลิตภัณฑ์ปะปนกับขยะทั่วไป และการจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และก่อให้เกิดปัญหามลพิษต่อแหล่งน้ำ พื้นดิน และอากาศ

ดีแทคเดินหน้าจัดกระบวนการควบคุมเพื่อนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของดีแทคเองโดยไม่ใช้วิธีฝังกลบเลย (ZERO Landfill) ภายในปี พ.ศ. 2565 ตามนโยบายด้านการจัดการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสภาวะอากาศ หรือ Environment Management System and Climate ตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่ดีแทค

ดีแทค “ทิ้งให้ดี” จัดการขยะโครงข่ายสัญญาณและอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินธุรกิจขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านโทรคมนาคม ส่วนใหญ่มาจากโครงข่ายสัญญาณ

เฉพาะในปีพ.ศ. 2562 ดีแทคสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 213,476 ชิ้น แบ่งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับจากผู้ใช้งานทั่วไป จำนวน 46,221 ชิ้น คิดเป็น 21% และขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นจากการการขยายโครงข่าย 167,255 ชิ้น หรือคิดเป็น 79% ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2,636,428 กิโลคาร์บอน

“ทั้งหมดที่เก็บได้ ดีแทคให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นภายในองค์กร เริ่มตั้งแต่สถานที่ที่ใช้เก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เสื่อมสภาพ โดยจะต้องเป็นคลังสินค้าที่มีระบบการควบคุมรักษาความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานอาคารคลังสินค้าของกรมการค้าภายใน และสามารรองรับระบบการจัดเก็บเครื่องมือและอุปกรณ์ของดีแทคได้ เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกับอุปกรณ์ จะไม่สร้างความเสียหายหรือมลภาวะใดๆ สู่ชุมชนรอบข้าง”

อรอุมากล่าวในท้ายที่สุดถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มาจากหน่วยงานภายในดีแทค อย่างศูนย์บริการดีแทคและสำนักงาน ส่วนใหญ่เป็นเครื่องโทรศัพท์มือถือสำหรับทดลองใช้ อุปกรณ์เสริมที่ตกรุ่น ดีแทคจะมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบจำนวนและสภาพของอุปกรณ์โดยเฉพาะ หากยังมีสภาพดี ก็จะนำกลับมาใช้ซ้ำในกิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสม ส่วนที่เสื่อมสภาพถาวรแล้ว ก็จะเข้ากระบวนการกำจัดและรีไซเคิลต่อไป

หลังจากแยะขยะจากโรงงานเทสที่อยุธยา ประเทศไทยแล้ว ทุกชิ้นส่วนจะถูกส่งไปรีไซเคิลต่อที่เทส สิงคโปร์ ซึ่งบางชิ้นส่วนที่หลอมเป็นทองได้ แล้วสิ่งที่รีไซเคิลทั้งหมดจะถูกนำกลับมาใช้ในการผลิตมือถือ หรือเครื่องอิลเคทรอนิกส์อื่น ๆ ได้อีกครั้ง โดยเทสคือผู้นำระดับโลกในเรื่องของการจัดการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทส ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 มีสาขามากกว่า 20 ประเทศอยู่ทั่วโลกทั้งหมด 38 แห่ง โดยทุกแห่งได้รับมาตรฐาน ISO14001 OSHAH18001 ISO9001 และ ISO27001 ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน เทสดำเนินธุรกิจในด้านการจัดการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบภายใต้นโยบาย zero landfill

You Might Also Like