16 พฤศจิกายน 2563…ข้าวตราฉัตร จับมือกับ เอสซีจีพี และ ดาว ประเทศไทย ยกระดับมาตรฐานถุงข้าวสารเป็นถุงข้าวรักษ์โลก เป็นแบรนด์แรกของไทย เพื่อวางขาย Q1/ 2564 และจะทยอยเปลี่ยนเป็นถุงรุ่นใหม่ทั้งหมดในปี 2568
จากการที่ประชากรเพิ่มขึ้น และความต้องการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เอสซีจีพีจึงให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการดูแลสิ่งแวดล้อม ตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยังได้นำแนวทางของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือ Circular Economy มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ และด้วยความที่เอสซีจีพีเป็นผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีวัสดุหลากหลายประเภท ทั้งกระดาษและพอลิเมอร์ จึงได้มีการแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรในการร่วมพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ภราดร จุลชาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีแพค ประเทศไทย จำกัด ในเอสซีจีพี (SCGP) ผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า จากหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือ Circular Economy ที่บริษัทนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ จึงให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านการออกแบบสินค้าและบริการ เน้นการออกแบบและผลิตสินค้าให้เจ้าของสินค้า และผู้บริโภคได้รับความสะดวก ใช้งานง่าย ใช้ทรัพยากรน้อยแต่คงทนแข็งแรง สามารถนำมาใช้ซ้ำและนำกลับมารีไซเคิลได้
“ในด้านกระบวนการเราได้มีการปรับปรุงการผลิตและการดำเนินการให้เกิด Circular Economy ตลอดทั้งซัพพลายเชน เช่น การลดการใช้น้ำและพลังงานในกรบวนการผลิต ซึ่งเอสซีจีพีพร้อมที่จะขับเคลื่อน Circular Economy จากภายในองค์กรสู่ภายนอก ผ่านลูกค้าและผู้บริโภค เพื่อให้ทุกส่วนเห็นคุณค่าและขับเคลื่อนไปด้วยกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่เอสซีจีพีได้มีการร่วมมือกับ บริษัท ดาว ประเทศไทย และข้าวตราฉัตร ในการพัฒนาถุงข้าวรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเป็นแบรนด์แรกของไทย”
ความร่วมมือทั้ง 3 ฝ่ายเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการร่วมกันแก้ปัญหาขยะพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรมอันประกอบไปด้วย บริษัท ดาว ประเทศไทย ในฐานะเจ้าของเทคโนโลยี และนวัตกรรม INNATE™ ด้วยเทคนิค ดาวน์ เกจจิ้ง (Dow Gauging) ซึ่งเป็นโซลูชั่นใหม่ของ Dow ช่วยให้ถุงข้าวบางลงแต่มีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยลดการใช้พลาสติกและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในขณะที่เอสซีจีพี เป็นผู้ผลิตที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานต่อการนำเทคโนโลยีไปใช้ในกระบวนการผลิต เมื่อผนวกความร่วมมือกับข้าวตราฉัตรซึ่งเป็นแบรนด์จำหน่ายข้าวบรรจุถุง อันดับ 1 ถือเป็นการดึงผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมในการลดขยะพลาสติกอย่างเห็นได้ชัด
ฐิติ ลุจินตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ธุรกิจข้าวและอาหารในประเทศและต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจข้าวตราฉัตร กล่าวว่า ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาถุงข้าวรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปี 2564 และจะทยอยเปลี่ยนเป็นถุงรุ่นใหม่ทั้งหมดภายในปี 2568
“ในช่วงเริ่มต้นคาดว่าจะลดปริมารการใช้พลาสติกได้ 300 ตันต่อปี จากปกติที่ใช้เม็ดพลาสติกในการผลิตถึง 1,300 ตันต่อปี คิดเป็นการลดปลอดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 600 ตันคาร์บอนต่อปี เทียบเท่ากับปลูกต้นไม้ 600 ไร่ และเป็นการส่งเสริมการรีไซเคิล เนื่องจากเป็นถุงฟิล์มหลายชั้นที่ผลิตจากพลาสติกโพลีเอททิลีนชนิดเดียวที่รีไซเคิลได้ง่าย”
เพื่อเป็นจัดการขยะถึงพลาสติกได้ 100% ข้าวตราฉัตรยังเปิดโครงการ “มือวิเศษ x วน โดย PPP Plastics” ร่วมรณรงค์ให้ผู้บริโภคนำถุงข้าวตราฉัตรมาบริจาคที่จุดดรอปพอยท์ของโครงการฯ กว่า 300 จุดทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง หรือรวบรวมส่งทางไปรษณีย์ เพื่อให้ถุงข้าวตราฉัตรเข้าสู่วงจร Circular Economy อย่างสมบูรณ์
ฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหารกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า นวัตกรรม INNATE™ เป็นการจัดเรียงโมเลกุลทำให้ลดการใช้พลาสติกลงจากเดิม 18% แต่ถุงบรรจุภัณฑ์เหนียวกว่าปกติถึงสองเท่า และสามารถกับไปรีไซเคิลได้ 100% ช่วยลดขยะพลาสติกและส่งเสริมวงจรรีไซเคิล
ถุงข้าวตราฉัตรรักษ์โลกที่เกิดจากความร่วมมือจากทั้ง 3 ฝ่ายในครั้งนี้น่าจะเป็นการจุดประกาย และสร้างแรงกระตุ้นให้เจ้าของสินค้ารายอื่น ๆ หันมาให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งหาทางแก้ปัญหานี้ไปด้วยกัน
No Comments