24 เมษายน 2562… เป็นการเดินหน้าพันธกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม สรรสร้างนวัตกรรมเพื่อการลดขยะและอนาคตที่ยั่งยืน เพิ่มทางเลือกไลฟ์สไตล์ใหม่ให้ลูกค้าในไทย ร่วมรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน ทั่วโลกมีการใช้แก้วกระดาษ และแก้วพลาสติกราวกว่า 6 แสนล้านใบต่อปี แม้ว่าแก้วสตาร์บัคส์ จะคิดเป็นอัตราส่วนเพียง 1% ของจำนวนแก้วทั้งหมด แต่ยังมองหาทางเลือกใหม่ๆ ที่ยั่งยืนเพื่อการลดขยะ
เมื่อปี พ.ศ. 2557 สตาร์บัคส์ได้นำร่องเปิดตัวแก้วที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และ สหราชอาณาจักร ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า และจำหน่ายแก้วนี้ได้มากกว่า 25 ล้านใบทั่วโลก
“ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นคนไทยหันมารักและใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมถึงเรื่องปัญหาขยะพลาสติกมากขึ้น เนื่องในโอกาส Earth Day 2019 สตาร์บัคส์ มีความได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสนอทางเลือกใหม่ทดแทนแก้วที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง และยังช่วยลดขยะได้ง่ายๆ ด้วยการนำแก้วส่วนตัวมาใช้ซื้อเครื่องดื่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 สตาร์บัคส์และลูกค้าในไทยได้ร่วมกันลดการใช้แก้วกระดาษ และพลาสติกแล้วกว่า 10 ล้านใบ”
เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) ขยายความเพิ่มเติม โดยสตาร์บัคส์ จะยังคงร่วมมือกับพันธมิตร ในการพัฒนานวัตกรรมวัสดุนำกลับมาใช้ใหม่ได้ต่อไป เพื่อรณรงค์ให้ลูกค้าร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ แก้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reusable Cup) ที่วางขายในโอกาสพิเศษนี้ มีดีไซน์คุ้นตาคล้ายกับแก้วที่ใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มในร้านสตาร์บัคส์ ผลิตจากพอลิโพรไพลีน วัสดุที่มีความคงทนและแข็งแรงกว่าแก้วกระดาษทั่วไป
แก้วคอลเลคชั่นพิเศษนี้ มีให้เลือก 2 แบบ สำหรับใส่เครื่องดื่มร้อนหรือเครื่องดื่มเย็น และเริ่มวางจำหน่ายในราคา 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน หรือวันคุ้มครองโลก เป็นต้นไปจนกว่าสินค้าจะหมด ทั้งนี้ ลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มที่ร้านสตาร์บัคส์จะได้รับส่วนลดแก้วละ 10 บาททุกครั้ง
เรื่องของสิ่งแวดล้อมสำหรับสตาร์บัคส์ ถือเป็นพันธกิจที่ดำเนินการต่อเนื่องทุกมิติ เมื่อปีที่แลัว สตาร์บัคส์ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 10 ล้านดอลล่าสหรัฐ หรือ กว่า 320 ล้านบาท ร่วมกับบริษัทโคลส ลูปส์ พาร์ทเนอร์ส (Closed Loops Partners) ในการคิดค้นวัสดุแก้วที่นำมารีไซเคิลและย่อยสลายได้ 100% ในนามของโครงการ NextGen Cup Challenge ซึ่งร้านสตาร์บัคส์ในหลายๆ ประเทศจะเริ่มทดลองใช้แก้วที่ทำจากนวัตกรรมวัสดุใหม่นี้ในปีหน้า
เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ยังได้ประกาศเป้าหมาย ยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกในร้านสตาร์บัคส์ 30,000 สาขาทั่วโลกภายในปีหน้า ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยลดการใช้พลาสติกกว่า 1 พันล้านชิ้นต่อปี โดยในบางประเทศจะนำร่องเริ่มใช้แก้วดีไซน์แบบใหม่ที่มีฝาปิดสามารถยกจิบได้เลยภายในกลางปีนี้ (ทางร้านจะยังมีหลอดพลาสติกเตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่ขอ หรือมีสภาวะจำเป็นต้องใช้หลอด)
นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ยังได้ร่วมมือกับองค์กรที่สนับสนุนการสร้างอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง U.S. Green Building Council® ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 เป็นต้นมา เพื่อสร้างระบบการรับรองร้านค้าหรือ มาตรฐาน LEED® (Leadership in Energy and Environmental Design) โดยในปัจจุบัน สตาร์บัคส์มี “ร้านกาแฟสีเขียว” ที่ได้รับรองมาตรฐานดังกล่าวกว่า 1,500 สาขาใน 20 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ ตั้งอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 50 สาขา และสตาร์บัคส์ยังได้ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนร้านกาแฟสีเขียวเป็น 10,000 สาขาทั่วโลก ภายในปี พ.ศ. 2568