5 มีนาคม 2563…สำหรับบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) ปี 2020 ถูกตั้งให้เป็นทั้งปีของ Action และ Reaction พิสูจน์ได้จากแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
Nina Goodrich ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ แสดงความเห็นบทความล่าสุด ถึงแนวโน้มบรรจุภัณฑ์ที่น่าจับตามองในปี 2020
1. บริษัทจำนวนมากประกาศเป้าหมายบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน รวมถึงสร้างสรรค์ Action Plan
ในปี 2018 และ 2019 มีแบรนด์มากมายประกาศเป้าหมายใหม่ เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ของพวกเขายั่งยืนมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของบรรจุภัณฑ์พลาสติก และภัยคุกคามที่เกิดจากการที่สังคมไม่อนุญาตให้ใช้พลาสติก เพราะหากหาวิธีไม่ได้ มันก็จะรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อม จุดสำคัญคือ มีคำมั่นสัญญา (Commitment) ที่แต่ละบริษัทต่างคนต่างทำ รวมถึงคำมั่นสัญญา (Commitment) ที่จับมือกันทำในนามกลุ่ม New Plastics Economy
บริษัทส่วนใหญ่ที่ทำเรื่องนี้มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายภายในปี 2025 หรือ 2030 ทำให้ปี 2020 เป็นจุดเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์สำหรับการดำเนินการ บริษัทเหล่านี้จะต้องจัดทำแผนที่เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและลงทุนทรัพยากรเพื่อดำเนินการตามแผนเหล่านั้น บริษัทใดก็ตามที่ยังไม่ได้ทำข้อตกลงด้านความยั่งยืนดังกล่าวมีแนวโน้มสูงมากที่จะเข้าร่วมในปีนี้ มิฉะนั้นก็จะมีความเสี่ยงเรื่องล้าหลังคู่แข่ง
2. บริษัทสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ให้แก่ผู้บริโภคในห่วงโซ่อุปทานสำหรับพลาสติกรีไซเคิล
มีซัพพลายเออร์ที่แถลงว่าได้สร้างบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบรีไซเคิลในระดับสูง (มากกว่า 90%) ทั้งหลังการใช้ของผู้บริโภค และระดับอุตสาหกรรม มีการรับรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความต้องการในการสร้างตลาดปลายทางสำหรับวัสดุรีไซเคิลเพื่อช่วยให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน การมีวัตถุดิบที่นำกลับมารีไซเคิลอย่างต่อเนื่องจะเป็นแนวทางที่ซัพพลายเออร์จำนวนมากลงแรงหาวิธีการอย่างแข็งขันในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกันแบบข้าม Value Chain เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตพลาสติกที่ใช้แล้วเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในแอปพลิเคชันใหม่ ความร่วมมือรอบ ๆกิจการรีไซเคิลด้านเคมิคอลส์มีความก้าวหน้ามหาศาล เช่น พันธมิตรกับเทคโนโลยีการรีไซเคิล บริษัทอย่าง Total, Nestléและ Mars พัฒนาน้ำมันจากบรรจุภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นผสมซึ่งจะใช้ในการผลิตโพลีเมอร์ใหม่ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในตลาด ขณะที่ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกมักจะไม่นำกลับมาใช้ใหม่ แต่จะมีความร่วมมือในการรีไซเคิลสารเคมีประเภทนี้มากขึ้น
3. แบรนด์จะเปลี่ยนการใช้วัตถุดิบในการพิมพ์บางอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการนำกลับมารีไซเคิล
กับความหวาดผวาเรื่องการใช้พลาสติก และบรรลุเป้าหมายการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ บางบริษัทกำลังสำรวจทางเลือกใหม่ๆ เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของการแก้ปัญหาที่ใช้กระดาษเช่นเดียวกับวัสดุรีไซเคิลอื่น ๆ ที่ย่อยสลายได้ มีหลายชนิดที่ใช้ได้ในวงกว้างจริงๆ ตลาดตอนนี้อยู่ในโหมดอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะดำเนินการนับจากปี 2020 เป็นต้นไป
ขณะที่นวัตกรรมการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่นั้นน่าตื่นเต้นและมีแนวโน้มที่ดี แต่นี่อาจมีแนวโน้มเชิงลบอยู่ด้วย เนื่องจากพลาสติกมักมีผลคาร์บอนเป็นบวกเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ กลุ่ม Sustainable Packaging Coalition ได้พยายามประชาสัมพันธ์เรื่องการตัดสินใจออกแบบแต่ละครั้งให้พิจารณาเรื่องคาร์บอนและผลกระทบสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ อย่างรอบคอบ เมื่อเทียบกับการทำแค่ให้รีไซเคิลได้
4. หลายๆบริษัทนำบรรจุภัณฑ์ที่นำมาใช้ซ้ำได้อย่างจริงจังมากขึ้น
การนำมาใช้ซ้ำได้กลายเป็นองค์ประกอบหลักของบริษัทที่เข้าร่วม New Plastic Economy’s Global Commitment และจำนวนผู้ลงนามที่เพิ่มขึ้นในพอร์ตการลงทุนบรรจุภัณฑ์ก็กำลังมองหาโอกาสในการนำกลับมาใช้ซ้ำ บริษัทอย่างBlue Bottle CoffeeและUnileverได้ประกาศแผนการขยายขนาดการใช้ซ้ำ และ Business Model ของการทำเรื่อง Refill
สตาร์ทอัพด้านอีคอมเมิร์ซกำลังรุกตลาดมากขึ้นด้วยโมเดลการจัดส่งสินค้าที่ใช้ซ้ำได้ เพื่อทดแทนบรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือกระดาษแข็งอายุใช้งานสั้นด้วยโมเดลโลจิสติกส์แบบ Closed-Loop ซึ่งก้าวล้ำไปกว่าการทำ B2B ทั่วไป ถ้าพิจารณาจากปิระมิดการจัดการของเสีย การลดการใช้ การนำกลับมาใช้ซ้ำ มีอันดับสูงกว่าการรีไซเคิล และกลายเป็นส่วนสำคัญของการสนทนาเรื่องความยั่งยืนของบรรจุภัณฑ์
5. วัสดุเพื่อสุขภาพสำคัญมากขึ้นสำหรับบรรจุภัณฑ์
ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ จาก โปรแกรมการติดฉลาก How2Recycle ระบุว่าบรรจุภัณฑ์ใด ๆ ที่มีการเพิ่มสาร poly-fluoroalkyl หรือ PFAS โดยเจตนาจะถูกระบุว่ายังไม่ได้รีไซเคิล นี่เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้หลายอย่างที่ในปีนี้ดูไม่ดีสำหรับ PFAS
PFAS มักใช้ในบรรจุภัณฑ์ด้านอาหาร และมักถูกเรียกว่า “สารเคมีถาวร” เนื่องจากความคงทนในสภาพแวดล้อม ผลกระทบต่อสุขภาพของ PFAS ในห่วงโซ่อาหารนั้นค่อนข้างสั้น แต่ก็มักถูกถามจากชุมชนวิทยาศาสตร์ และบริษัทจำนวนไม่น้อยบ่อย ๆ เมื่อมีความพยายามที่จะมองข้ามความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ
กฎระเบียบที่ว่านี้เกิดขึ้นในยุโรป และถูกกล่าวถึงในอเมริกาเหนือ มีบางบริษัทหยุดใช้ PFAS กับบรรจุภัณฑ์ Thought leader อย่าง William McDonough กล่าวว่า Circular Economy ไม่ดีเลย ถ้าเราปั่นจักรยานสารพิษในสภาวะที่เป็น Circular Retox ผลิตภัณฑ์ที่เรารีไซเคิลควรปลอดภัยก่อน จากนั้นจึงเป็นค่อยเป็น Circular Economy
ที่มา