27 ตุลาคม 2563….นับเป็นการเชื่อมโยงการจัดการทรัพยากร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน ตั้งเป้าหมายในปีแรกจะส่งขยะ 500 ตันไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ
รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. ดร.กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวถึงการขยายความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งTRBN หรือเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้นโดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะระดมความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อใช้ศักยภาพของแต่ละภาคีในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
สำหรับก.ล.ต.เห็นถึง Requirement ของภาคธุรกิจที่มีต่อ ESG (Environment, Social and Governance) ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจที่จะสามารถเติบโตไปพร้อมกับความท้าทายนี้ได้ ควรตระหนักถึงความสำคัญและผนวก ESG เข้ากับการทำธุรกิจ ขณะที่ผู้ลงทุนสถาบันก็ได้ให้ความสำคัญกับ ESG ใช้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจลงทุน ที่ผ่านมาก.ล.ต.ทำงานร่วมกับ TRBN และพันธมิตรระยะแรก เชื่อมั่นว่าโมเดลดังกล่าวจะสามารถขยายผลไปยังถนนเส้นอื่นต่อไป รวมทั้งภาคธุรกิจสามารถยกระดับการเปิดเผยข้อมูลสะท้อนเรื่อง ESG ผ่านรายงาน One Report
“การลงนามในเจตนารมณ์ร่วมกันในครั้งนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในกลไกที่มีพลังมากที่มุ่งผลักดันให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง โดยมีองค์กรจากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือแบบ end-to-end จึงเชื่อมั่นว่าจะช่วยส่งเสริมให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความยั่งยืน และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ปี 2030”
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีบริษัทจดทะเบียนกว่า 700 บริษัท ซึ่งกระบวนการดำเนินธุรกิจได้ผลิตสินค้าและบริการตอบสนองผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยห่วงโซ่ธุรกิจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของขยะเศษอาหาร ขยะพลาสติก และขยะจากการผลิต ภาคตลาดทุนจึงต้องการมีส่วนร่วมลดปัญหาขยะดังกล่าว ซึ่งในโครงการ “หมุนเวียน เปลี่ยนโลก” ถือเป็นต้นแบบที่ดีช่วยให้บริษัทภาคเอกชนในตลาดทุนไทย ตระหนักถึงการจัดการขยะในการะบวนการดำเนินธุรกิจที่เห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น
“ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอชื่นชม TRBN และพันธมิตรกว่า 38 องค์กร ที่ร่วมขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาขยะตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และส่งเสริมบรรษัทภิบาลในตลาดทุนไทยอย่างยั่งยืน”
วิกฤตต่าง ๆ ทางด้าน ESG ที่เกิดขึ้นมา ทำให้บริษัทส่วนใหญ่ก็ได้รับผลกระทบ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ตระหนักดีว่า การบริหารความเสี่ยงที่ดีต้องคํานึงถึงความยั่งยืน ยิ่งในช่วงที่โลกของเรากําลังเปราะบางเช่นนี้ มิฉะนั้นจะนํามาซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในระยะยาว
“เราสามารถดําเนินงานได้จากโครงการเล็กๆ โครงการใกล้ตัวอย่าง โครงการ ‘หมุนเวียน เปลี่ยนโลก’ นี้ ไม่จําเป็นต้องลงทุนมากมาย แต่เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มนวัตกรรมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กิจการของเราก็จะยั่งยืน เติบโต สามารถรักษาส่วนต่างของรายได้และค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้”
พิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการเครือข่าย ฯ เปิดเผยว่า บริษัทเอกชน องค์กร ภาครัฐ ภาควิชาการและประชาสังคม 38 องค์กรมาร่วมลงนามแสดงเจตนารมณ์ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กว้างขวางและพัฒนาอย่างเป็นระบบอย่างแท้จริง
“การลงนามความร่วมมือโครงการหมุนเวียนเปลี่ยนโลกในวันนี้ก็เพื่อร่วมดำเนินโครงการบนพื้นที่แยกปทุมวัน-ราชประสงค์ เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2563 – ธันวาคม 2564 โดยมีเป้าหมายจะรวบรวมวัสดุใช้แล้วที่สะอาดและแห้งเข้าระบบการรีไซเคิลให้ได้ไม่น้อยกว่า 500 ตัน จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการนำไปใช้ใหม่ของแต่ละองค์กร”
TRBN จึงเชิญบริษัทจดทะเบียนไทยในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีนโยบายและความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน และบริษัทเอกชนที่เป็นคู่ค้าหรือบริษัทในห่วงโซ่การผลิตและจัดการ มาร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ ในสังคม นำการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดในวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ แยกปทุมวัน-ราชประสงค์ เพื่อจัดการทรัพยากรให้ครบวงจรเพื่อร่วมกันสร้างระบบและนวัตกรรมการจัดการใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้ง การเก็บข้อมูล ประเมินผล และถอดบทเรียนเชิงวิชาการ