12 กันยายน 2565.. พัฒนาการที่เกิดร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทีมนักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ แชมป์เหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31ประเทศเวียดนาม ดังนั้นการเดินหน้าสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯจึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกับการมอบ “ทุนเพื่อการศึกษา” สร้างความยั่งยืนแก่นักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย เป็นปีแรก
รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และดูแลฝ่ายบริหารกิจกรรมเพื่อสังคมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย ร่วมกันกล่าวถึงพัฒนาการความสำเร็จที่เกิดขึ้นของนักกีฬาเทเบิลเทนนิส ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์เหรียญทองการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31ประเทศเวียดนาม โดยสามารถทำได้ 4 เหรียญทอง จากทีมชาย ทีมหญิง หญิงเดี่ยว และหญิงคู่ และ 2 เหรียญเงิน จากชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว รวมทั้ง 2 เหรียญทองแดง จากคู่ผสม ซึ่งเป็นการได้รับเหรียญรางวัลจากกีฬาเทเบิลเทนนิสมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การแข่งขันซีเกมส์ ที่แข่งขันกันมา 31 ครั้ง 63 ปี
“ภายใต้วิสัยทัศน์ To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” โดยนอกจากการส่งเสริมตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้สนับสนุนการสร้างประโยชน์แก่สังคมด้วย ซึ่งกีฬาเทเบิลเทนนิสนั้นถือเป็นกีฬาที่ให้ประโยชน์ทั้งด้านการสร้างความเข้มแข็งของร่างกาย และจิตใจ อีกทั้งยังช่วยในการสร้างสมาธิ และการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้สนับสนุนกีฬาเทเบิลเทนนิส ภายใต้โครงการ SET Star Table Tennis ซึ่งในปีนี้มอบทุนสนับสนุน 4.75 ล้านบาทเพื่อ มุ่งพัฒนาวงการเทเบิลเทนนิสไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล”
รองรักษ์กล่าวต่อเนื่องว่า เป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ฯคือเมื่อจะทำเรื่องอะไรก็ตาม ก็ขอให้มีความยั่งยืน ไม่ใช่เรื่องชั่วคราว เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีการสนับสนุนทุนการศึกษาให้นักกีฬา
“เมื่อเป็นนักกีฬาแล้ว ต้องมีการแข่งขันฝึกซ้อมทุกวัน เพราะหากหยุดซ้อม 1 วันก็ล้าหลังคู่แข่งแล้ว ซึ่งระหว่างนั้นควรจะต้องมีคนช่วยเหลือ เพราะไม่มีเวลาหารายได้เสริม ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ มาช่วยเรื่องทุนการศึกษาเต็มที่ นักกีฬาและครอบครัวจะได้มีกำลังใจไม่ต้องกังวล โดยในปี 2565 จะเป็นปีแรกที่ตลาดหักทรัพย์ฯ มอบทุนการศึกษา 500,000 บาท ให้นักกีฬาเทเบิลเทนนิสเยาวชนดาวรุ่ง ที่มุ่งมั่นตั้งใจ และมีผลงานโดดเด่น เพื่อสนับสนุนให้นักกีฬาเยาวชนสามารถพัฒนาศักยภาพและก้าวสู่การเป็นนักกีฬาระดับประเทศ เชื่อว่าทุนการศึกษานี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุนช่วยให้น้องๆ พัฒนาศักยภาพให้ได้ไกลเป็นนักกีฬานานชาติได้”
ณัฐวุฒิ ขยายความต่อเนื่องถึงบทบาทสมาคมฯ การสร้างนักกีฬามีต้นทุนที่สูง แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง นักกีฬาต้องผ่านการเก็บตัวฝึกซ้อมตลอดทั้งปี หากพักก็ฝีมือตก ในการซ้อมคต้องมีโค้ชที่ดี มีอุปกรณ์ที่ทัยสมัย ต้องส่งไปแข่งเพื่อหาประสบการณ์ ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา ที่กล่าวมาจะเป็นต้นใช้ทุนทรัพย์ ลำพังภาครัฐช่วยไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะสมาคมกีฬาในประเทศไทยมี 50 สมาคมที่ภาครัฐต้องดูแล
“สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส เราโชคดี ได้รับการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ มาอย่างต่อเนื่องซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 9 วันนี้ที่เราประสบความสำเร็จ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีส่วนร่วมในความสำเร็จนั้น การก้าวเดินต่อไปคือ ทำอย่างไรที่เราจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ หานักกีฬาใหม่ ๆ ได้มากกว่านี้ จึงเป็นที่มาของทุนการศึกษาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบัน นักกีฬาอายุน้อยน้อยสุดอายุยังไม่ถึง 6 ขวบดี ก็อยู่ที่นี่แล้ว”
ด.ญ.อมีนะฮ์ ประสงค์ผล วัย 6 ปีนักกีฬาทีมชาติอายุน้อยที่สุดของสมาคมฯ คุณแม่เล่าให้ฟังว่า เห็นพี่ชายเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิส แล้วขอลองเล่นด้วยตั้งแต่อายุน้อย ในที่สุดก็อยู่ในทีมชาติ และครอบครัวก็คิดไม่ถึงว่า น้องจะมีสมาธิมากและวินัยได้ตั้งแต่อายุเพียง 6 ปีเท่านั้น
ปัจจุบันนักกีฬาเทเบิลเทนนิสของไทย ได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ Top 25 ของโลกแล้ว ผลงานที่สำคัญคือ การที่น้องหญิง สุธาสินี เสวตรบุตร นักกีฬาภายใต้โครงการ SET Star Table Tennis ได้ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในการแข่งขันเทเบิลเทนนิสกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ครั้งล่าสุด นับเป็นการเข้ารอบลึกที่สุดของประวัติศาสตร์วงการเทเบิลเทนนิสไทยในโอลิมปิกเกมส์ นับเป็นการเข้ารอบลึกที่สุดของประวัติศาสตร์วงการเทเบิลเทนนิสไทยในโอลิมปิกเกมส์ นอกจากนี้ ยังมีการสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการนักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย ให้เข้าสู่ลีกอาชีพผ่านโครงการ TTAT Pro League โดยน้องหญิง สุธาสินี และน้องทิพ อรวรรณ พาระนัง สามารถคว้าแชมลีกออสเตรียและลีกสเปนได้ตามลำดับ ซึ่งเชื่อมั่นว่าวงการกีฬาเทบิลเทนนิสไทย จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส เราไม่ได้มองเรื่อง KPI เรามองเรื่องการทำงานร่วมกัน และมองว่าจะทำอย่างไรให้กีฬาเทเบิลเทนนิสเติบโต พัฒนาต่อไป ต้องสร้างตัวแทนรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง” รองรักษ์กล่าวในท้ายที่สุด