21-22 ธันวาคม 2567…“สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชนถนนรถแก้ว ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวลำพูน โดยบริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด (GSK) ได้ร่วมมือกับเทศบาลเมืองลำพูนและพันธมิตรในชุมชนเพื่อผลักดันแนวทางดูแลสุขภาพที่เน้นความยั่งยืน
CSR และ ESG เพื่อโลกที่ยั่งยืน
มาเรีย คริสติช กรรมการผู้จัดการ GSK กล่าวว่า GSK ในฐานะผู้นำด้านชีวเภสัช (Biopharma) เรามุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คน รวมถึงการฟื้นฟูธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด Healthier People, Healthier Planet ซึ่งการดูแลสุขภาพของผู้คนและสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ที่ครอบคลุมทุกมิติ
มาเรีย กล่าวถึงปัญหามลพิษ PM 2.5 ว่า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทยที่มีอัตราผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจสูง GSK จึงร่วมมือกับเทศบาลเมืองลำพูน ลำพูน ซิตี้ แลป และเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (EACC) เพื่อจัดกิจกรรมที่ช่วยลดผลกระทบจากปัญหานี้ พร้อมส่งเสริมให้ชาวบ้านตรวจสุขภาพปอดปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง การสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องนี้จะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคในระยะยาว
“สุขศาลาไม่ใช่เพียงศูนย์บริการสุขภาพ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นช่วยกันสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับชุมชน เราหวังว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาชุมชนในด้านอื่น ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั่วประเทศ” มาเรียกล่าว
ร่วมสร้างเมืองแห่งสุขภาวะ
ประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน กล่าวว่า จังหวัดลำพูนเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา PM 2.5 อย่างหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ การเปิด ‘สุขศาลา’ ช่วยให้สามารถดูแลประชาชนได้ใกล้ชิดมากขึ้น นอกจากการตรวจสมรรถภาพปอด ยังรณรงค์ให้ชาวบ้านใส่ใจสุขภาพด้วยการตรวจเชิงรุก เช่น การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้หน้ากากอนามัย และการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่เหมาะสม
นายกเทศมนตรีเน้นย้ำว่า “สุขศาลาไม่ได้เป็นเพียงศูนย์สุขภาพ แต่เป็นต้นแบบที่เราหวังว่าจะขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในอนาคต เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่ครอบคลุมและยั่งยืน”
การออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์ทุกมิติ
รศ. ดร.สิงห์ อินทรชูโต ผู้ร่วมก่อตั้งลำพูน ซิตี้ แลป กล่าวถึงบทบาทในโครงการนี้ว่า
“สุขศาลาเป็นพื้นที่ที่เราพัฒนาขึ้นจากการทำงานร่วมกับชุมชน เรารับฟังความต้องการของชาวบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบและบริการที่จัดเตรียมไว้นั้นสอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมล้านนา เราไม่ได้แค่มองเรื่องสุขภาพ แต่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของชุมชนด้วย เช่น การปรับภูมิทัศน์ให้เหมาะกับการใช้ชีวิต และการส่งเสริมกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว”
การตรวจปอดเชิงรุก คือหัวใจของการป้องกัน
รศ. นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (EACC) กล่าวถึงความสำคัญของการตรวจสมรรถภาพปอดว่า “โรคระบบทางเดินหายใจมักไม่มีอาการในระยะแรก แต่สามารถส่งผลกระทบในระยะยาว การใช้เครื่อง Peak Flow Meter ช่วยให้เราตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่ต้น ชาวบ้านสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการเดินทางไปโรงพยาบาล”
เขายังกล่าวถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันในชุมชนว่า “โครงการนี้ไม่ได้เกี่ยวกับแค่เทคโนโลยี แต่เป็นการสร้างความรู้และความเข้าใจให้ชาวบ้าน เพื่อให้พวกเขาสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองได้ในระยะยาว”
GSK: CSR คือการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
โสมรสา พงษ์เพิ่มพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ GSK ได้ขยายความถึงวิสัยทัศน์ขององค์กรในด้าน CSR ว่า
“สำหรับ GSK เราเชื่อว่า CSR ไม่ควรหยุดอยู่แค่การบริจาคหรือโครงการระยะสั้น แต่ควรเป็นการสร้างความยั่งยืนที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนในระยะยาว เรามีวิธีการที่ชัดเจน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะสำคัญ ซึ่งช่วยให้เราประเมินผลและปรับปรุงโครงการได้อย่างต่อเนื่อง”
ระยะที่ 1: เริ่มต้นด้วยการสร้างองค์ความรู้และหาเครือข่ายพันธมิตรที่เหมาะสม เช่น การร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง รศ. นพ.วัชรา และ รศ. ดร.สิงห์ ที่มีความเข้าใจในบริบทของชุมชน
ระยะที่ 2: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น “สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชนที่เข้าถึงง่ายและมีค่าใช้จ่ายต่ำ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างยั่งยืน
ระยะที่ 3: ขยายผลไปสู่เศรษฐกิจชุมชน โดยการสร้างกิจกรรมและโอกาสในการพัฒนาที่ต่อยอดจากโครงการ
“เราเล็งเห็นว่าเครื่อง Peak Flow Meter เป็นเครื่องมือที่ช่วยตรวจสมรรถภาพปอดได้อย่างง่ายดายและประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้ชาวบ้านสามารถตรวจสุขภาพได้โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญของการป้องกันโรค และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้อย่างมาก”
โสมรสา ยังเน้นถึงความสำคัญของการทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวว่า
“ความยั่งยืนเกิดขึ้นเมื่อชุมชนสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงองค์ความรู้ การใช้เทคโนโลยีที่ง่ายและเหมาะสมกับต้นทุนของชุมชน หรือการสนับสนุนจากพันธมิตรในทุกภาคส่วน GSK มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ระบบที่ชุมชนสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ด้วยตัวเอง โดยมีเราคอยสนับสนุนในบทบาทที่เหมาะสม”
สุขศาลาคือต้นแบบความยั่งยืนในชุมชน

การทดสอบสมรรถภาพปอดด้วยเครื่อง Peak Flow Meter ได้อย่างง่ายดายและประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้ชาวบ้านสามารถตรวจสุขภาพได้โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล
ด้วยการร่วมมือจากทุกภาคส่วน “สุขศาลา” ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์สุขภาพ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนลำพูน ทั้งในด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ชาวลำพูนสามารถใช้บริการได้ทุกวันเสาร์ที่ 2 และ 4 ของเดือนตั้งแต่วันนี้ พร้อมก้าวสู่อนาคตที่มีสุขภาพดีและความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน