1-2 กุมภาพันธ์ 2568…แนวคิด Learn to Earn – เรียนรู้เพื่ออยู่รอด กำลังกลายเป็นทางรอดของแรงงานยุคใหม่ที่ต้องเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หนึ่งในโครงการที่สะท้อนแนวคิดนี้ได้ชัดเจนคือความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิเอสซีจี และ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เปิดหลักสูตร ผู้ช่วยพยาบาล เพื่อสร้างบุคลากรทางการแพทย์รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระบบสาธารณสุขไทย
สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า มูลนิธิให้ทุนสนับสนุนหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลมาตั้งแต่ปี 2563 และจนถึงปัจจุบันได้ให้ทุนไปแล้ว 179 ทุน รวมงบประมาณกว่า 4 ล้านบาท โดยตั้งเป้าสนับสนุน 40 ทุนต่อปี เพื่อช่วยให้เยาวชนไทยที่ขาดโอกาสสามารถเรียนรู้ทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ
“เราเชื่อว่า Learn to Earn ไม่ใช่แค่การเรียนเพื่อจบไปหางานทำ แต่คือการเรียนให้มีงานทำแน่นอน หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลใช้เวลาเพียง 1 ปี แต่จบแล้วมีงานรองรับ 100% สามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ทันที เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานคือโอกาสในการอยู่รอดที่แท้จริง” สุวิมลกล่าว
ด้าน รศ. นพ. ตรีภพ เลิศบรรณพงษ์ รองคณบดีฝ่ายการศึกษาก่อนปริญญา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายว่าการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะพยาบาล ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขต้องการผู้ช่วยพยาบาลมากขึ้น โดยการเรียนเพียง 1 ปี สามารถช่วยแบ่งเบาภาระงานพยาบาลได้ถึง 25-30%
“ภายในเวลา 10 ปี หากเราผลิตผู้ช่วยพยาบาลควบคู่ไปกับพยาบาลวิชาชีพ เราจะมีบุคลากรที่ช่วยดูแลผู้ป่วยได้มากขึ้นถึง 4 เท่า และที่สำคัญคือผู้ช่วยพยาบาลสามารถต่อยอดไปเป็นพยาบาลวิชาชีพได้ในอนาคต”
นอกจากความร่วมมือด้านทุนการศึกษาแล้ว รัชนีพร ภัทรปกรณ์ หัวหน้าโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาล ยังเน้นว่า การเรียนหลักสูตรนี้ไม่ใช่เพียงการฝึกปฏิบัติพื้นฐาน แต่ต้องเรียนรู้ทุกด้านของงานพยาบาล
“ผู้ช่วยพยาบาลต้องเข้าใจทั้งด้านวิชาการและการปฏิบัติ ตั้งแต่การดูแลพื้นฐาน เช่น การอาบน้ำ เช็ดตัว ให้อาหารทางสายยาง ไปจนถึงการวัดสัญญาณชีพ และช่วยเหลือพยาบาลในงานที่ซับซ้อนขึ้น เราจึงออกแบบหลักสูตรให้ครบทุกด้าน ทั้ง Hard Skills อย่างการดูแลผู้ป่วย และ Soft Skills เช่น การสื่อสารและการทำงานเป็นทีม เพื่อให้นักเรียนของเราออกไปทำงานได้อย่างมืออาชีพ”
นอกจากการสนับสนุนจากภาคสถาบันแล้ว ผู้เรียนเองก็เป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนถึงประโยชน์ของโครงการนี้ นักเรียนทุนผู้ช่วยพยาบาลรายหนึ่ง กล่าวว่า
“โครงการนี้เปลี่ยนชีวิตหนูเลยค่ะ ตอนแรกก็กลัวว่าจะเรียนไหวไหม แต่พอได้ฝึกปฏิบัติงานจริง ได้ดูแลผู้ป่วย มันทำให้รู้ว่าตัวเองมีคุณค่า และสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้จริง”
ในอนาคต หากมีการขยายโครงการและเพิ่มแรงสนับสนุนจากภาครัฐ แนวคิด Learn to Earn อาจเป็นคำตอบให้กับแรงงานไทยที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอาชีพ และทำให้เยาวชนมีทางเลือกในการพัฒนาตัวเองอย่างยั่งยืน
โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงการศึกษายุคใหม่ที่ต้องเชื่อมโยงกับตลาดแรงงาน หากสามารถขยายโมเดลนี้ไปยังสาขาอาชีพอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยี หรือพลังงานสะอาด อาจช่วยสร้างแรงงานคุณภาพที่พร้อมรับมือกับอนาคตของเศรษฐกิจไทยได้อย่างแท้จริง