23 กรกฎาคม 2563… กัลฟ์ ผนึก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดินหน้าปรับปรุงสนามฟุตบอลชุมชนแห่งใหม่ เฟ้นหานักเตะดาวรุ่ง ฝึกฝีเท้าที่สโมสร Borussia Dortmund เยอรมนี สร้างแรงบันดาลใจและปูทางนักเตะเยาวชนไทย สู่อุตสาหกรรมกีฬาอย่างยั่งยืน
ธนญ ตันติสุนทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการองค์กร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และไชยชนก ชิดชอบ รองผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ร่วมกันกล่าวถึงโครงการ “Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” ปีที่ 2
กลุ่มบริษัทกัลฟ์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่มีใจรักด้านกีฬา ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาบริษัทสนับสนุนทีมฟุตบอลไทยและจัดกิจกรรมฟุตบอลคลินิกในชุมชนที่กัลฟ์เข้าไปดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีประสบการณ์เรื่องของการพัฒนาเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม สามารถผลักดันนักเตะขึ้นสู่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ และทีมชาติไทยได้เป็นจำนวนมาก
โครงการ “Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน ในปีที่ 2 จะเดินหน้ากืจกรรมแบบปีที่ 1 ที่ประสบความสำเร็จมากแล้ว โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ส่วน
1. การปรับปรุงสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนให้ได้มาตรฐาน จำนวน 1 สนาม โดย กัลฟ์ และสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะคัดเลือกสนามฟุตบอลในชุมชนหนึ่งแห่งที่มีผู้เสนอเข้ามาพร้อมเหตุผลที่น่าสนใจ รวมถึงพิจารณาถึงผู้ดูแลหลังจากมีส่งมอบ เมื่อผ่านการคัดเลือก จะปรับปรุงให้เป็นสนามฟุตบอลที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
2. Trial Tournament เป็นการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชน ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 เพื่อเฟ้นหานักเตะเยาวชน 2 คน และคัดเลือกอีก 2 คนจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี รวม 4 คน ที่มีความสามารถโดดเด่นร่วมเดินทางไปเก็บประสบการณ์ที่สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 7 วัน เพื่อฝึกทักษะฟุตบอลในสนามระดับโลก มุ่งสร้างแรงบันดาลใจและปูทางสู่การเป็นบุคลากรมืออาชีพในวงการกีฬาไทย
3.กิจกรรมฟุตบอลคลินิกในชุมชน โดยการนำโค้ชและนักเตะของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปร่วมฝึกทักษะฟุตบอลให้กับเยาวชนในชุมชน พร้อมร่วมแบ่งปันประสบการณ์และเผยกลเม็ดระดับมืออาชีพ
“ทั้ง 3 กิจกรรมมีความสอดคล้องกันโดยเฉพาะการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ในการเป็นนักฟุตบอล ถือเป็นการยกระดับและพัฒนาศักยภาพนักเตะเยาวชนสู่การเป็นบุคลากรคุณภาพที่จะร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกีฬาของประเทศต่อไปในอนาคต”
ธนญ กล่าวต่อเนื่องว่า กัลฟ์ตระหนักดีว่าการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยไปสู่ระดับสากลนั้น จำเป็นต้องส่งเสริมความพร้อมอย่างรอบด้าน ซึ่งนอกจากการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬา สถานที่ฝึกซ้อมและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญคือความมุ่งมั่นของเยาวชนที่จะพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นต้นแบบในกลุ่มเยาวชนด้วยกันเอง และมุ่งเติบโตไปเป็นแรงขับเคลื่อนแก่ประเทศ ไม่ว่าจะในฐานะนักกีฬา หรือในฐานะผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่นในแวดวงกีฬา อาทิ โค้ช นักวางกลยุทธ์ หรือ นักการตลาดกีฬา ก็ตาม
“กัลฟ์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ทำในสิ่งที่รักและเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างที่มุ่งหวังไว้” ธนญ กล่าวในท้ายที่สุด