2 กุมภาพันธ์ 2564… วันนี้-14 กุมภาพันธ์ บิ๊กอิมแพคภายใต้โครงการ JUMP THAILAND 2021 by AIS NEXT เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้มีส่วนร่วมระดมไอเดียกู้โลกจากปัญหาระดับ Global ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท โดยโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ AIS NEXT และพาร์ทเนอร์ พร้อมงบประมาณสนับสนุนสูงสุดถึง 100 ล้านบาท
อราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม เอไอเอส กล่าวว่า ในวิถีปัจจุบันไม่ได้อยู่ท่ามกลางโรคระบาดเพียงอย่างเดียวที่สร้างความหวั่นวิตกให้มนุษยชาติ ทั้งในเรื่องการเข้าถึงวัคซีน ค่ารักษาพยาบาล นอกจากเรื่องนี้ยังมีอีกหลายที่ยังอยู่กับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางด้านสังคม ความเท่าเทียมทางการศึกษา ทั้งมิติของครู นักเรียน สภาพเศรษฐกิจ ปัญหาการว่างงาน การจ้างงาน แรงงานข้ามชาติ การเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะ คุณภาพการบริการ สวัสดิภาพความปลอดภัยและคุณภาพชีวิต ไฟส่องสว่างทางเดิน ยาเสพติด คอรัปชั่น ส่วนสิ่งแวดล้อม เรื่องของ Climate Change ขยะพลาสติก E-Waste
“เอไอเอสในฐานะแบรนด์ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่ให้ความเชื่อมั่นในด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในเรื่อง ขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยการสร้างการตระหนักรู้ให้คนไทยรวมถึงการรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเข้าสู่กระบวนการ Recycle อย่าง ถูกวิธี ในเรื่องนี้ สามารถรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์จากลูกค้าและสาธารณชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้จำนวน 360,000 ชิ้นภายในปี 2566 จะลดสัดส่วนซากที่เหลือจากกระบวนการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงจากร้อยละ 5 ในปี 2561 เป็นร้อยละ 3 ภายในปี 2566”
อราคิน ยกตัวอย่างข้างต้นเป็นการทำงานร่วมกับภายนอกใน “โครงการ คนไทยไร้ E-Waste” ส่วนจากตัวองค์กรเอไอเอสเอง เป้าหมายในการลดคาร์บอนขององค์กร ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปริมาณคาร์บอน โดยลดการปล่อย CO2 จาก Business Operation ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน เพราะต้องการลดการปล่อย CO2 หรือ ก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 90 ภายในปี 2566 (เทียบกับปี 2558) โดยปี 2563 ลดไปได้ 696,883tCo2e(ตันคาร์บอน) คิดเป็นร้อยละ 82 ของเป้าหมาย
แล้วก็มาถึง Digital Disruption ซึ่ง AIS NEXT เตรียมความพร้อมรับมือเทรนด์เปลี่ยนความท้าทายมาเป็นโอกาสสำหรับการก้าวกระโดดไปข้างหน้า ประกอบด้วย
1.Digital Identity Foundation Initiative: ภาพรวมของความเป็นตัวตนของตัวบุคคลในแพลตฟอร์มต่างๆ ความเป็นเจ้าของของตัวตน และความง่ายในการอนุญาต รวมทั้งการควบคุมความเป็นตัวตนในยุคดิจิทัล ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานราชการไทย
2.Digital Archive & Intelligence Initiative: การเก็บข้อมูลด้วยเซนเซอร์และอุปกรณ์ไอโอที การนำเอาข้อมูลไปเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อการสร้างข้อมูลเชิงลึก รวมถึงรากฐานของการจัดเก็บกระบวนการในกลุ่มเมฆเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในสากล
3.Phygital Exchange Market Initiative: การรวมกันของสิ่งของในโลกความเป็นจริงและโลกเสมือน การสร้างและควบคุมตลาดซื้อขายระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์จริง และการสร้างการระบบการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ระหว่างสินทรัพย์ในโลกจริงและโลกเสมือนที่เป็นรากฐานให้กับประเทศไทย
4.Future Workforce Platform Initiative: ภาพรวมของความสามารถและสกิลของกลุ่มคนในสังคมต่างๆจากภาวะสังคมผู้สูงอายุ การแยกกันทางวิชาความรู้ระหว่างกลุ่มดิจิทัลโดยกำเนิด (Digital Natives) และกลุ่มผู้อพยพทางดิจิทัล (Digital Immigrants) เทรนด์ของการเรียนรู้แบบทีละเล็กละน้อย (Micro-Learning) หลักการเรียน และการอัพเดทความรู้ในยุคดิจิทัล รวมทั้งโครงสร้างของสังคมการทำงานแบบฟรีแลนซ์ของไทย
5.Digital Police Initiative: การบังคับใช้กฎหมายในโลกดิจิทัลในประเทศไทย รวมถึงการใช้กฎหมายดิจิทัลกับโลกของอุปกรณ์ไอโอทีในยุค 5G ความปลอดภัยและอาชญากรรมไซเบอร์ที่ควรระวัง
“จากปัญหา และวิกฤตรอบตัวที่เกิดขึ้น รวมถึงเทรนด์แห่งความท้าทายดังกล่าว เราจึงเชื่อมั่นว่า หากคนไทยรวมพลังกัน ระดมไอเดีย นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จะสามารถหาทางออกและแก้ปัญหาได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นเอไอเอส ขออาสาเป็นแกนกลางในการเปิดรับฟังมุมมองปัญหาจากทุกคน และชวนคนไทยทั้งชาติ ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นิสิต นักศึกษา คณาจารย์ นักวิจัย นวัตกร ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา มาร่วมระดมสรรพกำลัง ระดมความคิด สร้างสรรค์โซลูชันในการแก้ไขปัญหาสำคัญ ด้วยกระบวนการแบบสตาร์ตอัพ ที่มุ่งหาโซลูชั่นส์ในการแก้ Pain point พร้อมจัด Online Hackathon ครั้งแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในโครงการ JUMP THAILAND by AIS NEXT เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน”
รายละเอียดโครงการมีดังนี้
1. Problem Submission: ส่งโจทย์ปัญหาเพื่อโหวตหัวข้อที่ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 ก.พ. 2564 ที่เฟซุบ๊กเพจ: JumpThailand และเว็บไซต์ jumpthailand.earth
2.Team Registration: รับสมัครทีม ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.- 15 มี.ค.2564 ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ JumpThailand และเว็บไซต์ jumpthailand.earth และประกาศรายชื่อทีมที่ได้เข้าแข่งในวันที่ 27 มี.ค. 2564
3. Online Hackathon: ช่วงการแข่งขัน Hackathon ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม
4. Incubation: ภายหลังจากโครงการจะมีการรับโครงการที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อนำมาบ่มเพาะนวัตกรรมกับ AIS NEXT
อราคิน กล่าวในท้ายที่สุดถึงทีมที่เข้าร่วม JUMP THAILAND Online Hackathon ครั้งนี้ จะมีโอกาสเข้าถึงกระบวนการทำงานและเทคโนโลยีของเอไอเอส อาทิ 5G, AI, Blockchain, Cloud, XR, Big Data รวมถึงได้ใช้พื้นที่ AIS PLAYGROUND ในการทดลองทดสอบนวัตกรรมต้นแบบบนเครือข่ายและสภาพแวดล้อมจริงแล้ว ทีมผู้ชนะยังมีโอกาสได้รับเงินรางวัลสูงสุดรวมกว่า 1 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสามารถพัฒนาต่อยอด ขยาย Scale ได้ ก็จะได้โอกาสในการเข้าร่วมการบ่มเพาะนวัตกรรมร่วมกับทีม AIS NEXT เพื่อทดลองทดสอบโซลูชันในตลาดจริง ด้วยงบประมาณสนับสนุนที่มากที่สุดถึง 100 ล้านบาทอีกด้วย