30 พฤศจิกายน 2563…ไฟ-ฟ้า (FAI-FAH) โดยทีเอ็มบีและธนชาต มีแนวคิดในการสร้างสังคมแห่งการ “ให้” ที่ยั่งยืน มุ่งจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเสริมสร้างสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมไทยผ่านโครงการต่าง ๆ
ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ และกาญจนา โรจวทัญญู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด ทีเอ็มบี ร่วมงานประจำปี “FAI-FAH ART FEST 2020” งานนิทรรศการศิลปะและการแสดงของเด็กไฟ-ฟ้า ที่ได้รับการจุดประกายและพัฒนาศักยภาพจากศูนย์เรียนรู้ ไฟ-ฟ้า ตอกย้ำแนวคิด Make REAL Change เดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดเวทีโชว์เคสผลงานเด็ก ๆ ครั้งใหญ่ประจำปี พร้อมกิจกรรมออกร้านจากผลงานไอเดียสร้างสรรค์สู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากใจเด็ก ๆ และชุมชน ณ ทีเอ็มบี สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน
เจตนารมณ์ของทีเอ็มบีและธนชาต ตอกย้ำแนวคิด Make REAL Change เปลี่ยนให้ชีวิตของคนในสังคมดีขึ้นอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยให้สามารถเติบโตสู่สังคมได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน จึงได้สร้างสรรค์ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า ตั้งแต่ปี 2552 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบโอกาสและปลูกฝังให้เยาวชนอายุ 12-17 ปี ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์เชิงศิลปะและพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต หรือ Art & Life Skills เพื่อพัฒนาสิ่งที่ได้เรียนรู้มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และในขณะเดียวกัน การให้คืนกลับสู่ชุมชน เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
กาญจนา โรจวทัญญู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด ทีเอ็มบี กล่าวว่า
“การก่อตั้งศูนย์เรียนรู้ของเยาวชนในชุมชนแห่งแรกบนถนนประดิพัทธ์ เมื่อปี 2553 ให้เด็ก ๆ ใช้สถานที่ในเวลาว่าง เช่น ทำการบ้าน อ่านหนังสือ พบปะเพื่อน ๆ ร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งเปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับศิลปะและทักษะชีวิต (Art & Life Skills) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และสามารถส่งกลับสิ่งดี ๆ คืนสู่ชุมชน และเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป และเพื่อเป็นการให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่ในการแสดงออกความคิดสร้างสรรค์ จากสิ่งที่ได้รับการจุดประกายจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า จึงเป็นที่มาของงาน FAI-FAH ART FEST ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมีเด็ก ๆ จากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า ทั้ง 5 แห่งของทีเอ็มบีและธนชาต ได้แก่ ประดิพัทธ์ ประชาอุทิศ จันทน์ บางกอกน้อย และสมุทรปราการ มาร่วมจัดแสดงผลงาน นิทรรศการ และจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเด็ก ๆ ให้บุคคลทั่วไปได้เห็นถึงพลังของเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้า ที่ได้ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ความสามารถสู่ไอเดียต่อยอดในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ”
“กิจกรรมสำคัญประจำปีอย่าง FAI-FAH ART FEST เป็นเวทีหนึ่งที่เด็ก ๆ จะได้แสดงศักยภาพที่แต่ละคนมี โดย FAI-FAH ART FEST 2020 นิทรรศการศิลปะและการแสดงของเด็กไฟ-ฟ้า ในปีนี้ได้ถูกจัดขึ้นในตอนที่มีชื่อว่า Help Kids Make REAL Change เกิดจากการเรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ และสิ่งที่รัก สู่การนำเสนอศักยภาพของเด็กธรรมดาที่มีความสามารถไม่ธรรมดา โดยที่เด็ก ๆ จะต้องร่วมกันคิดและสร้างสรรค์โปรเจกต์จากสิ่งที่ได้รับการจุดประกายจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า เพื่อนำมาแสดงในงาน เพื่อให้เห็นถึงความสามารถ ความมุ่งมั่น และศักยภาพของเด็ก ๆ ด้านการคิดวางแผนงาน การทำงานเป็นกลุ่ม การสร้างสรรค์ผลงาน นำไปสู่ธีมงาน สินค้า และการแสดงต่าง ๆ อย่างเช่น การออกร้านขายของที่เด็ก ๆ ได้ออกแบบผลิตภัฑณ์ และดำเนินการเรื่องกระบวนการขายต่าง ๆ เพื่อออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ของเด็กๆ โดยรายได้จากการอุดหนุนสินค้าหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำกลับไปให้คืนสู่ชุมชน เพื่อเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป จึงอยากชวนคนไทยมาร่วมให้กำลังใจเด็กธรรมดาที่มีความสุข และภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำ” กาญจนากล่าวทิ้งท้าย
งาน FAI-FAH ART FEST 2020 ตอน “Help Kids Make REAL Change” ได้แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ดังนี้
1.โซน “ช้อป” ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์จากเด็ก ๆ และชุมชนที่ออกบูทภายในงาน
-ผลงานศิลปะของเด็กๆ กว่า 60 ผลงาน จากคลาสอาร์ต ที่เด็ก ๆ ได้สร้างสรรค์จินตนาการผ่านลายเส้นออกมาเป็นผลงานที่น่าประทับใจ เพื่อให้พี่ ๆ ได้มาช้อปผลงานจากนิทรรศการภาพวาด เพื่อสร้างกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานต่อไป
ผลิตภัณฑ์จากเด็กๆ ไฟ-ฟ้า (จากโครงการ Help Kids Make REAL Change) อาทิ ผ้าพันคออุ่นรัก , กระเป๋าสุขใจ , กระเป๋าใส่ใจ , หน้ากากปกป้อง, เสื้อยืดมิตรภาพ ฯลฯ โดย
-ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะจุดประกายให้เยาวชนได้รู้จักส่งต่อการ ‘ให้’ ไปยังผู้อื่น โดยนำไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้เรียนรู้จากคลาสวิชาวาดเส้น และคอมพิวเตอร์กราฟิก มาออกแบบผ่านลายเส้น ลวดลายสีสันรูปร่างต่าง ๆ พัฒนาจนต่อยอดกลายเป็นสินค้าคุณภาพจากใจ ซึ่งในปีนี้ได้มีความพิเศษเพิ่มขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการให้ที่ดีที่สุด คือ ช่วยให้เด็ก ๆ ได้เป็นผู้ให้ เราจึงได้นำผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากไอเดียน้อง ๆ ไปจำหน่ายอยู่บนเว็บไซต์ Shop.tmbfoundation.or.th เพื่อเปิดโอกาสให้พี่ ๆ ทุกคนสามารถร่วมกันอุดหนุนสินค้าได้ตลอดเวลา โดยที่รายได้จากการอุดหนุนสินค้าหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำกลับไปให้คืนสู่ชุมชน เพื่อเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป
-ผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่เกิดจากการจุดประกายชุมชนโดยอาสาสมัครทีเอ็มบีและธนชาตที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ FAI-FAH for Communities โดยภายในงานพบกับผลิตภัณฑ์จากร้านค้าชุมชน อาทิ “น้ำยาอเนกประสงค์” จากชุมชนเคหะสถานเจริญชัย , “ครีมนวดแก้ปวดและพิมเสนน้ำ” จากชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม, “ข้าวเกรียบเห็ดและน้ำพริกเห็ด” จากกลุ่มแม่บ้านชุมชนราชทรัพย์, “ขนมปังสอดไส้และหมูปิ้ง” จากร้านบ้านพระพร ฯลฯ
-และอีกหนึ่งความพิเศษ พบกับการจำหน่ายขนมและอาหาร จาก “ครัวเชฟมือใหม่ หัวใจอาสา” ที่เป็นโครงการสอนทำขนมและอาหาร เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้มีอาชีพเสริม ยืนหยัดได้ในช่วงวิกฤต
2.โซน “ชม” พบกับนิทรรศการผลงานศิลปะและการแสดงของเด็ก ๆ ได้แก่
-งานศิลปะหลากหลายสไตล์ ที่ตั้งใจถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดผ่านภาพวาด โดยใช้เทคนิคการวาดเขียน และการลงสีต่าง ๆ มาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
-การแสดงจากคลาสเรียนต่าง ๆ ที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า อาทิ ร้องเพลง กีต้าร์ เต้น เทควันโด และมวยไทย
3.โซน “ช่วย” ที่มาพร้อมกับกิจกรรม “สมุดทำมือเพื่อน้อง”
#Ecobookchallenge เปลี่ยนกระดาษใช้แล้วให้กลายเป็นสมุดทำมือเพื่อน้องนักเรียนที่ขาดแคลน โดยจะรวบรวมทั้งหมดจำนวน 1,500 เล่มส่งต่อให้น้อง 5 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนสุวรรณตะไล จ.สุพรรณบุรี, โรงเรียนวัดกู้ จ.นนทบุรี, โรงเรียนวัดอินทอารี จ.สุพรรณบุรี, โรงเรียนวัดเกษราราม จ. นครปฐม และโรงเรียนวัดคอกช้าง จ.สุพรรณบุรี ต่อไป
นอกจากนี้ ภายในงานมีการมอบเกียรติบัตรให้แก่เยาวชนโครงการไฟ-ฟ้า ที่ผ่านการเรียนรู้กิจกรรมสร้างสรรค์เชิงศิลปะและทักษะอาชีพแขนงต่าง ๆ ที่สำเร็จหลักสูตรจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าเป็นเวลา 3 ปี จำนวนทั้งสิ้น 37 คน และการมอบเกียรติบัตรแสดงความขอบคุณครูอาสาสมัครและผู้สนับสนุนโครงการไฟ-ฟ้า ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้รับมอบเงินสนับสนุนกว่า 1 ล้านบาท จากทีเอ็มบีเอเอ็ม อีสท์สปริง เพื่อสนับสนุนโครงการไฟ-ฟ้า ในการสร้างสรรค์กิจกรรมและพัฒนาศักยภาพ พร้อมจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อส่งพลังแห่งการให้กลับคืนสู่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป