13-15 เมษายน 2564…คุณคุ้นเคยกับแนวคิดของสวนอัจฉริยะหรือไม่? นี่คือชุดนวัตกรรมที่รวมการทําสวนและเทคโนโลยี เพื่อให้คนในเขตเมืองมีโอกาสที่จะปลูกพืชในคอนโดฯ หรืออพาร์ทเมนท์ที่แสนสบายของพวกเขา
สวนอัจฉริยะไม่ใช้ดิน จึงไม่จําเป็นต้องใช้สารกําจัดศัตรูพืชและสารเคมีอื่น ๆ อ่างเก็บน้ําที่เต็มไปด้วยน้ําและที่เสียบ การเพาะปลูกพืชสามารถเริ่มต้นได้ มีลูกค้าหลายร้อยรายของ aerogarden สามารถช่วยผู้สนใจในการเลือกสวนที่เหมาะสมกับตัวเอง
นี่คือทุกสิ่งที่คุณจําเป็นต้องรู้เกี่ยวกับชุดนวัตกรรมเหล่านี้
ประโยชน์
สวนอัจฉริยะให้ประโยชน์มากมายแก่คนชอบทำสวนในร่มยิ่งกว่าการปลูกพืชที่เติบโตกลางแจ้ง เชื่อหรือไม่ว่าชุดที่เติบโตได้เองเหล่านี้ไม่ใช้ดินเพื่อช่วยในการเพาะปลูกพืช มันใช้น้ําและระบบคอมพิวเตอร์เท่านั้น สิ่งที่ชาวสวนต้องทำคือ วางแคปซูลพืชไว้ในชุด เสียบปลั๊ก และที่เหลือปล่อยให้เป็นงานในระบบ
Cr.ways2gogreenblog
แม้มีคนจำนวนมากยังคงสงสัยเกี่ยวกับการปลูกพืชโดยไม่ต้องใช้ดิน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทําให้กระบวนการนี้เป็นไปได้แน่นอน ปัจจัย ก็คือ พืชส่วนใหญ่จริญเติบโตได้โดยไม่ต้องมีดิน ขณะที่บางชนิดต้องการดินเพื่อมีชีวิตอยู่ ดังนั้นต้องให้แน่ใจก่อนว่า คุณเลือกพืชได้เหมาะสมแล้วก่อนลงทุนในชุดนวัตกรรมดังกล่าว
ประโยชน์ที่โดดเด่นอีกข้อหนึ่งของการเป็นเจ้าของสวนอัจฉริยะ คือไม่ใช้สารเคมี เนื่องจากไม่มีเหตุผลที่จะปกป้องพืชจากศัตรูพืชและแมลงที่มาจากดิน การไม่ใช้สารกําจัดศัตรูพืช ทำให้ผักและสมุนไพรที่ปลูกในสวนอัจฉริยะนั้นมีสุขภาพดีและอร่อยกว่ามาก เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการทําสลัดหรือปรุงอาหารด้วยผักที่เก็บเกี่ยวบางส่วนจากสวนอัจฉริยะเอง
การควบคุมสภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบของการมีสวนอัจฉริยะ ซึ่งไม่ใช่กรณีของที่ดินกลางแจ้ง เพื่อให้พืชเจริญเติบโตพวกมันต้องสัมผัสกับสภาพอากาศ แสง และความชื้นที่เหมาะสม น่าเสียดายที่องค์ประกอบเหล่านี้ไม่สามารถควบคุมได้เมื่อปลูกพืชนอกร่ม เนื่องจากสภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในไม่กี่วินาที
Cr.ways2gogreenblog
ทว่า สวนอัจฉริยะช่วยให้ชาวสวนสามารถควบคุมสภาพอากาศได้อย่างสมบูรณ์ โดยการปรับองค์ประกอบเหล่านี้ทั้งหมดตามความต้องการของพืช ด้วยเทคโนโลยีชาวสวนในร่มสามารถปรับอุณหภูมิและแสงได้ตลอดเวลาโดยไม่มีปัญหาเรื่องฤดูกาล เป็นผลให้การทําสวนอัจฉริยะช่วยให้เกษตรกรในครัวเรือนสามารถปลูกพืชได้ตลอดทั้งปีและต่อเนื่อง
สวนอัจฉริยะเป็นทางออกที่ดีสําหรับบุคคลที่กระตือรือร้นที่จะเป็นชาวสวน แต่ไม่มีเวลาสําหรับงานอดิเรกดังกล่าว การทําสวนแบบดั้งเดิมต้องการความทุ่มเทของแต่ละคน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดูแลพืชอย่างเหมาะสมในทุกฤดูกาล เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันป่วย นอกจากนี้ยังต้องการการปักชำที่เรียกว่าเป็นงานที่ต้องใช้ความเพียรมากที่สุดสําหรับชาวสวน
ในที่สุดชุดนวัตกรรมเหล่านี้ทําสิ่งมหัศจรรย์สําหรับสภาพแวดล้อม โดยการลดเปอร์เซ็นต์ของการใช้น้ํา เนื่องจากการไม่มีรดน้ําปกติน้ําจึงสูญเปล่าน้อยลงในการทําสวนประเภทนี้ ในความเป็นจริง ระบบเหล่านี้ใช้น้ําระหว่าง 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการรดน้ำกลางแจ้ง
วิธีใช้สวนอัจฉริยะ เมื่อคุณทําสวนในร่ม เป็นเวลาที่จะตั้งค่า และปลูกพืชผลชุดของคุณ ชุดนวัตกรรมเหล่านี้มีช่องว่างสำหรับวางแคปซูลพืช มีฝาพลาสติกรูปตัวอักษร U ปิด งานแรก คือ ถอดฝาออกและเอาช่องออกจากตัวเครื่อง เมื่อเอาตะแกรงช่องออกแล้ว คุณก็ใส่แคปซูลภายในช่อง และคลิกกลับเข้าไปในชุดนวัตกรรม ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็น “สวน” ของคุณ หลังจากแต่ละช่องกลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว สิ่งนี้ควรถูกคลุมด้วยฝาและโดมโปร่งใส มันเป็นจุดสําคัญว่าโดมที่จะไม่ถูกดึงออกจนกว่ากระบวนการงอกจะเริ่มขึ้น และจะมองเห็นพืชที่ปลูกได้ นอกจากนี้คุณสามารถเขียนชื่อของพืชที่ปลูกบนโดม เพื่อให้ไม่ลืมประเภทของแคปซูลที่คุณใส่ในสวน โปรดจําไว้ว่าอย่าทิ้งช่องตะแกรง ฝาและโดม หลังใช้งาน เพราะมันสามารถใช้ซ้ำได้
Cr.Aerogarden คลิกที่ภาพ
หลังจากนั้นถังเก็บน้ําควรเติมให้พอเกือบถึงฝา แต่ไม่ล้น มิฉะนั้นคุณจะมีปัญหากับการให้น้ำมากเกินไป เมื่อถังเก็บน้ําเต็มแล้วผู้ปลูกสามารถเสียบปลั๊กสวนเข้ากับไฟฟ้า เป็นการเริ่มปลูกพืช ทันทีที่คุณเสียบปลั๊ก เครื่องสามารถเปิดได้ 16 ชั่วโมง
ชุดนวัตกรรมบางรุ่นมาพร้อมกับการเพิ่มแสง เพื่อแสงให้สูงกว่าค่าเฉลี่ย การเพิ่มนี้ ช่วยให้ชาวสวนสามารถถอดหลอดไฟ เพิ่มการขยาย และใส่หลอดไฟได้อย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุที่ชุดนวัตกรรมทําสวนเหล่านี้พึ่งพาเทคโนโลยี มันจึงติดมาพร้อมกับแอปฯ ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดจากโทรศัพท์มือถือได้ และผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้ แม้ไม่อยู่บ้าน
สุดท้าย การใช้ชีวิตในพื้นที่จำกัดเช่น คอนโดฯ , อพาร์ตเมนต์ ฯลฯ ไม่ควรฉุดรั้ง หรือเป็นข้อจำกัดไม่ให้เป็นชาวสวนแต่อย่างใด
ที่มา
