21 มิถุนายน 2564…ยอดการใช้สิทธิพิเศษบริการ Telemedicine ของเอไอเอสมีอัตราการใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนเติบโตขึ้น 2.5 เท่า เทียบกับในปีที่ผ่านมา จึงเดินหน้าผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพด้วยคอนเซ็ป “สร้างสุขภาพดีวิถีใหม่”
อ้างอิงผลการสำรวจข้อมูลจากบทความ Healthcare Systems & Services ของแม็คคินซีย์ในเดือนพ.ค. 2563 ของประเทศอเมริกา พบว่าในช่วงการระบาดของ COVID-19 ทำให้ความสนใจในการใช้บริการการแพทย์ผ่านออนไลน์ (Telemedicine) เพิ่มเป็น 76%
“Telemedicine ของเอไอเอสมีอัตราการใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนเติบโตขึ้น 2.5 เท่า เทียบกับในปีที่ผ่านมา เราจึงผนึกกำลังกับหลากหลายพาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพ ด้วยคอนเซ็ปต์ สร้างสุขภาพดีวิถีใหม่ ซึ่งเอไอเอสเปิดกว้างกับทุกโรงพยาบาลทุกสังกัดเข้ามาร่วมกันบริการทางเลือกในการพบแพทย์ ให้กับลูกค้าเอไอเอส 43 ล้านราย ครอบคลุมทุกกลุ่มทั่วประเทศ ส่วนหน่วยงานที่ดูแลเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และประกันสังคมนั้น อาจจะต้องดูว่าจะสามารถร่วมมือได้แบบใด”
บุษยา สถิรพิพัฒน์กุล ผู้บริหารหน่วยธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์ เอไอเอส ขยายความเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเอไอเอสบริการ Telemedicine ผนึกกำลังร่วมกับ 6 กลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล-กรุงเทพ สำนักงานใหญ่, บำรุงราษฎร์, พญาไท, พระรามเก้า, สมิติเวช, BDMS Wellness Clinic และ 2 แพล็ตฟอร์มสุขภาพ Doctor A to Z และ Dr. Raksa
ทั้งนี้ ในส่วน Telemedicine โรงพยาบาาลสมิติเวชหนึ่งในพันธมิตรเอไอเอส ให้ข้อมูลของโรงพยาบาลซึ่งเคยมีรายได้จากส่วนนี้เพียง 5% ปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญคือ 15% ส่งผลให้โรงพยาบาลขยายบริการด้านอื่น ๆ ในรูปแบบ Tele ด้วย
พาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพของเอไอเอสด้วยคอนเซ็ป “สร้างสุขภาพดีวิถีใหม่”
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษครบจบในช่องทางเดียว สิทธิพิเศษจากร้านยาชั้นนำกว่า 350 สาขาทั่วประเทศ และประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 โดยรวมศูนย์ไว้ที่ my AIS Application เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการและรับสิทธิพิเศษทุกอย่างได้ในช่องทางเดียว
บุษยา กล่าวตอนท้ายว่า “ขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ผู้ประกอบการด้านสุขภาพทุกท่าน ที่ร่วมกันส่งมอบความห่วงใยผ่านสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าเอไอเอส และเอไอเอส ไฟเบอร์ ที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ทั้งของตัวเองและคนในครอบครัว ในยุค New Normal ได้อย่างชัดเจนที่สุด ที่สำคัญยังเป็นการร่วมเชื่อมต่อ ช่วยเหลือ มอบโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลแบบไม่มีข้อจำกัดให้แก่คนไทยด้วยอีกทางหนึ่ง ตามเจตนารมณ์ของการเป็น Digital Life Service Provider ของเอไอเอส”
