5-7 มกราคม 2565… บอร์ดจะต้องสนใจปัญหาสภาพอากาศและ ESG มากขึ้น การให้คะแนนและการจัดอันดับในปี 2565 จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าบอร์ดมีความรู้เรื่อง ESG และข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็น พวกเขาต้องถูกสอบถามว่ามีคุณสมบัติ ESG และรู้เรื่องปัญหาสภาพอากาศหรือไม่ โลกต้องการให้บอร์ดปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป ก้าวสู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคต
ปี 2564 มีรายงานหรือการสำรวจมากมายเกี่ยวกับ ESG และสมรรถนะด้านสภาพอากาศของคณะบอร์ดบริษัททั่วโลกที่สนใจเรื่องปัญหาสภาพอากาศ ซึ่งนี่เป็นเรื่องดีแน่นอน
Tensie Whelan จาก NYU Stern Center for Sustainable Business กำหนดทิศทางในเดือนมกราคมด้วยผลการศึกษาล่าสุดที่ตรวจสอบความสนใจเรื่อง ESG ในห้องประชุมบอร์ด รายงานระบุว่าบอร์ดบริษัทในสหรัฐฯ ประสบปัญหาจากความเชี่ยวชาญพิจารณาเรื่องการเงินที่เกี่ยวกับ ESG ไม่พอ มีเพียง 29 % ของบอร์ดใน Fortune 100 ที่สำรวจเท่านั้นที่มความสามารถตรงกับประเด็น ESG ที่เกี่ยวข้อง และมีเพียง 1 % เท่านั้นที่มีคุณสมบัติตรง เรื่องการแก้ปัญหาสภาพอากาศ
The Sustainability Board Report 2021(คลิก)รายงานว่ามีเพียง 4 ใน 10 ของบอร์ดที่ทำหน้าที่ในคณะบอร์ดที่ดูแล ESG และความยั่งยืนเท่านั้นที่กระตือรือร้นจริงจังเรื่อง ESG (หมายถึง “คุยรู้เรื่องเรื่องความยั่งยืน ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม”) และมีเพียง 8 % เท่านั้นที่มีใบรับรองแสดงว่าได้รับการฝึกอบรม ESG อย่างไรก็ตาม นั่นยังคงมีพัฒนาการที่ดี เมื่อเทียบกับรายงานปี 2562 ซึ่งมีเพียง 17 % ของบอร์ดผู้ดูแลเรื่องความยั่งยืนเท่านั้นที่สนใจจริงจัง
ถ้าบอร์ดที่มีหน้าที่กำกับดูแลโดยตรง ไม่มีข้อมูลเชิงลึก และคาดการณ์ล่วงหน้า นักลงทุนจะประเมินความโปร่งใสของการกำกับดูแล ESG ได้อย่างไร
รายงาน Deloitte Global(คลิก) ที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายนได้สำรวจความเห็นของบอร์ดที่ทำหน้าที่ผู้สอบบัญชีใน 40 ประเทศ แสดงให้เห็นว่า เพียง 47 % ของบอร์ดเท่านั้นที่บอกว่า ตนเอง “มีความรู้เรื่องการแก้ไขสภาพอากาศ”
Heidrick & Struggles และ INSEAD ปิดท้ายปี 2564 ด้วยการเผยแพร่ผลการศึกษาใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า 75% ของบอร์ดจำนวน 301 คนที่ทำการสำรวจเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความสำคัญมากต่อความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ของบริษัท
“การแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศต้องทำในห้องประชุมบอร์ด”(คลิก)
เป็นบทสรุปที่ได้จากความเห็นของคนเหล่านั้น
72 % รายงานด้วยความมั่นใจว่า พวกเขาจะบรรลุเป้าหมายการแก้ปํญหาสภาพภูมิอากาศ 69 % กล่าวว่า องค์ความรู้เรื่องโลกรวน ไม่ใช่คุณสมบัติพื้นฐานที่บอร์ดต้องมี ยิ่งกว่านั้น 65 % บอกว่า องค์ความรู้เรื่องโลกรวน ก็เป็นคุณสมบัติในการเลือกซีอีโอด้วย
กระนั้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตัวเลขอาจไม่เป็นเช่นนี้ แต่ข้อมูลนี้กล่าวได้ว่าเป็นจังหวะก้าวที่ยิ่งใหญ่เพราะตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 เมื่อตอนเปิดตัวแคมเปญ #CompetentBoardsMovement ในเมืองดาวอส ระหว่างการประชุม World Economic Forum ณ จุดนั้น สมาชิกบอร์ดและผู้บริหารส่วนใหญ่ไม่ได้มองว่าสภาพภูมิอากาศหรือ ESG เป็นปัญหาของบอร์ดแต่อย่างใด
ขณะที่สำหรับปี 2565 ไม่เพียงบอร์ดบริษัทต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับ ESG Certificate and Designation program เท่านั้น แต่บรรดา Asset Managet และที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่งก็ต้องเข้ารับการอบรมเหมือนกัน
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม สถาบัน Institutional Shareholder Services (ISS) ได้แถลงถึงการปรับปรุงนโยบายเกณฑ์มาตรฐานปี 2565(คลิก) ที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกรวนและความเสี่ยงด้านสภาพอากาศอื่นๆ ภายใต้หัวข้อ Board Accountability on Climate ว่า:
ปี 2565 นโยบายความรับผิดชอบของบอร์ด เกณฑ์มาตรฐานใหม่จะเน้นที่บริษัทซึ่งอยู่ในสถานะว่าเป็น Climate Action 100+ Focus และแนะนำให้โหวต “ตรงข้าม” สิ่งที่บอร์ดเห็นว่าไม่เหมาะสม เช่น กรณีที่ถูกมองว่า เปิดเผยข้อมูลไม่เพียงพอ ตาม Task Force on Climate-related Financial Disclosures (TCFD) หรือไม่มีเป้าหมายปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ครอบคลุมส่วนสำคัญของการปล่อยมลพิษโดยตรง
ประเด็นข้างต้น ถูกตอกย้ำตามมาด้วยการเผยแพร่ในวงกว้างกับเรื่อง “The ESG Mirage”(คลิก) ของ Bloomberg Businessweek “MSCI ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับ ESG ใหญ่ที่สุด ไม่ได้พยายามวัดผลกระทบขององค์กรใด ๆ ที่มีต่อโลก มันขึ้นอยู่กับว่าโลกสนใจผลสุดท้ายจริงหรือไม่”
ทั้งนี้ เราสามารถตัดสินบริษัทจากแผนการเปลี่ยนผ่าน เป้าหมาย และงบประมาณ อย่างไรก็ตาม หากบอร์ดที่ควรกำกับดูแล ไม่มีข้อมูลเชิงลึกและการคาดการณ์ล่วงหน้า นักลงทุนจะใช้การวัดผลและการจัดอันดับ ประเมินการกำกับดูแลด้าน ESG และการสร้างมูลค่าได้อย่างไร
แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะทำธุรกิจใด ๆ ในโลกที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิต
การให้คะแนนและการจัดอันดับในปี 2565 จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าบอร์ดมีความรู้เรื่อง ESG และข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็น พวกเขาต้องถูกสอบถามว่ามีคุณสมบัติ ESG และรู้เรื่องปัญหาสภาพอากาศหรือไม่
กล่าวโดยสรุป โลกต้องการให้บอร์ดปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป ก้าวสู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคต
ที่มา