25 มีนาคม 2565…เป็นความพยายามของสมาชิกในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย หรือ TCMA ถ้าเป็นไปได้ อยากลดปูนโครงสร้างเดิมออกจากตลาด นำปูนที่มีนวัตกรรมช่วยลดโลกร้อนอย่างปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้ทดแทนทั้งประเทศ ซึ่งเป้าหมายอยู่ไม่ไกลนัก เพราะผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรวมถึงภาครัฐล้วนเห็นชอบในการดำเนินงานนี้
ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย หรือ TCMA กล่าวว่า ตลอดปี 2564 แม้จะเป็นปีที่ท้าทายมาก ๆ ไม่แตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่ TCMA ก็ผลักดันให้สมาชิกเดินหน้าสู่ Mission 2023 ได้อย่างก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
-ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 300,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ จากมาตรการทดแทนปูนเม็ด เทียบเท่าปลูกต้นไม้กว่า 31 ล้านต้น (เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2565)
-พัฒนาเหมืองหินปูนสู่ความยั่งยืน “เขาวงโมเดล” และ “แก่งคอยโมเดล” ได้รับความเห็นชอบในร่างแผนผังโครงการจากภาครัฐ เป็นต้นแบบการทำเหมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อนาคตเป็นแหล่งน้ำและจุดเรียนรู้สำหรับชุมชน
-สร้าง Ecosystem สำหรับการจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (Waste) สนับสนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
-ความรับผิดชอบต่อสังคมในสถานการณ์ต่างๆ
“ความเข้มข้นของปี 2565 ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จะมีนวัตกรรมเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ในการผลิตปูนซีเมนต์ซึ่งการใช้พลังงานจะลดลงจากการที่เคยใช้กับปูนซีเมนต์แบบเดิม โดยในเรื่องของนวัตกรรม สมาชิกทุกรายทราบว่าเป็นต้นทุนทางนวัตกรรมที่จะใส่เข้าไป เป็นภาระที่สมาชิกเข้าใจดี เพราะว่าการจะเดินปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเฟสต่อ ๆ ไป ต้องพัฒนาโพรดักส์ อินโนเวชั่นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีการลงทุน ซึ่เงราไม่หยุดแค่นี้ เพราะปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเฟสต่อไปจะลดคาร์บอนได้มากกว่านี้ สมาชิก Commit กับการลงทุนนวัตกรรมนี้”
ชนะกล่าวในท้ายที่สุดถึงความท้าทายการลดก๊าซเรือนกระจก 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ TCMA ได้รับความร่วมมือจาก 16 ภาคีร่วมดำเนินการ จากภาครัฐ ภาควิชาชีพ ภาอุตสาหกรรม และภาคการศึกษา และการสนับสนุนของ 5 กระทรวง สามารถนำโครงการต่าง ๆ ที่ใช้ปูนซีเมนต์ที่มีนวัตกรรมลดโลกร้อน นำเรื่องนี้ไปสื่อสาร และใช้ประโยชน์ได้ ในรายงานความยั่งยืนเพื่ออธิบายประชาชาชนรวมถึงนักลงทุนได้
