20 เมษายน 2565…ค่าใช้จ่ายแอบแฝงมาใน NFT มี ลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้บล็อคเชนในการโอนสินทรัพย์ การใช้พลังงานของ Cryptocurrency ซึ่งได้กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อเร็ว ๆ นี้ การเพิ่มขึ้นของ NFT เปรียบได้กับการเติมน้ำมันลงไปในเปลวเพลิงนั่นเอง
NFT หรือโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ใช้เป็นหลักในการถ่ายทอดความเป็นเจ้าของศิลปะดิจิทัลและของสะสม นอกจากนั้น NFT ระดับวิจิตรศิลป์ก็มีเพิ่มขึ้นเป็นครั้งคราว
NFT
ทำงานอย่างไร ?
NFT ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน รับรองความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ NFT เก็บข้อมูลเฉพาะที่ทำให้มันทำงานต่างจาก cryptocurrencies เล็กน้อย สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณไม่สามารถแทนที่ NFT ด้วย NFT ที่คล้ายกันได้ Bitcoin ใด ๆ ( CRYPTO:BTC ) สามารถมีค่าเท่ากับ Bitcoin อื่น ๆ แต่ NFT ไม่ได้เป็นแบบนั้น
NFT ส่วนใหญ่ใช้ Ethereum blockchain เพื่อโอนความเป็นเจ้าของ เมื่อมีคนซื้อ NFTบน Ethereum blockchain พวกเขาจะส่ง Ether ( CRYPTO:ETH ) ไปยังเจ้าของปัจจุบันหรือตลาดที่รองรับการทำธุรกรรม ในทางกลับกัน พวกเขาได้รับ NFT ในกระเป๋าเงินของพวกเขา รวมถึงค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการโอน ค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะตกเป็นของเจ้าของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้ยืนยันธุรกรรมบนบล็อคเชน
Cr.คลิกที่ภาพ
การเป็นเจ้าของ NFT ก็เหมือนกับการเป็นเจ้าของสิทธิ์ในของสะสมหรืองานศิลปะ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะห้ามใครก็ตามไม่ให้ทำสำเนาดิจิทัลของไฟล์ jpeg หรือวิดีโอที่แสดงต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของสิทธิ์นั้นเหมือนกับการเป็นเจ้าของภาพวาดต้นฉบับโดยศิลปิน ขณะที่สำเนาก็เหมือนกับการเป็นเจ้าของภาพพิมพ์โปสเตอร์ราคาถูก ต้นฉบับมีค่า สำเนาไม่มีมูลค่าใดๆ
NFT ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร
ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับ NFT
เป็นหนึ่งในเรื่องที่อุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมดต้องเผชิญ
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ NFT ส่วนใหญ่ใช้ Ethereum blockchain ซึ่งใช้ระบบพิสูจน์การทำงาน เพื่อยืนยันแต่ละบล็อกใหม่ นั่นหมายถึงคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่าย ( เช่นนักขุด) ต่างแข่งขันกันสร้าง Solution ซับซ้อน คอมพิวเตอร์เครื่องแรกในเครือข่ายจะได้รับสิทธิ์ยืนยันการทำบล็อก และเก็บค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับแต่ละธุรกรรมในบล็อก
เมื่อราคาของอีเธอร์สูงขึ้นและค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น มูลค่าในระบบพิสูจน์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ นักขุดจึงถูกจูงใจให้ลงทุนกับคอมพิวเตอร์ที่แรงขึ้น ซึ่งดึงพลังงานจำนวนมากขึ้นจากโครงข่ายไฟฟ้า หากพลังงานนั้นมาจากแหล่งที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่มีอะไรมาชดเชย ก็จะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม
แต่การพิจารณาว่า NFT ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะนั้นเป็นเรื่องยากมาก ๆ เพราะ NFT เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของการทำธุรกรรมบน Ethereum blockchain ซึ่งไม่ชัดเจนว่ามันทำให้ปริมาณพลังงานที่คอมพิวเตอร์ต้องใช้นั้นเพิ่มมากน้อยแค่ไหน แม้ชัดเจนว่า ผลกระทบจาก NFT จะไม่เป็นศูนย์ก็ตาม แต่ก็อาจไม่ส่งผลกระทบมากเท่าคริปโตและ DeFi NFT ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Cr.คลิกที่ภาพ
มี 2-3 วิธี
จะทำให้ NFT เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
การขับเคลื่อนเรื่องเกี่ยวกับคริปโต ในมุมที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนในการขุดมากขึ้น แต่การแก้ปัญหาดังกล่าวอาจทำให้เกิดแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อโครงข่ายไฟฟ้า ไม่ต้องพูดถึงว่าพลังงานหมุนเวียนอาจไปสู่ความต้องการด้านอื่น ๆ ที่เร่งด่วนกว่า เช่น การจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องให้แก่ประชาชน
Cr.คลิกที่ภาพ
ตัวเลือกอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีพื้นฐานสำหรับ NFT เช่น การใช้บล็อคเชนที่เชื่อมโยงกับระบบที่ประหยัดมากขึ้นสามารถลดการบริโภคพลังงาน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจาก NFTs ด้วยระบบพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ ช่วยให้ยืนยันบล็อคถัดไปในบล็อคเชนได้สะดวกขึ้น คอมพิวเตอร์แทบไม่ต้องใช้พลังงานเลย
บล็อคเชนหลายแห่ง ใช้ระบบพิสูจน์การเป็นเจ้าของและรองรับ NFT เรียบร้อยแล้ว ในจำนวนนี้ คือ Cardano ( CRYPTO:ADA )และ Solana ( CRYPTO : SOL ) ขณะเดียวกัน Ethereum ก็กำลังปรับเรื่องการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ โดยใช้ระบบที่เรียกว่า Ethereum 2.0 ซึ่งดำเนินการมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่กำหนดวันใช้อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
อนาคต NFT
จะเป็นอย่างไร ?
มีแรงผลักดันอย่างกว้างขวางจากทั้งศิลปินและนักสะสมเพื่อทำให้ NFT เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด ให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย
หากตลาดต้องการวิธีซื้อ ขาย และรวบรวม NFT ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อุตสาหกรรมก็พร้อมเสนอโซลูชันมีอยู่แล้ว ตลาดและแพลตฟอร์ม NFT จำนวนมาก กำลังผลักดันบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราอาจเห็นโครงการ NFT จำนวนมากขึ้นโยกย้ายไปยังแพลตฟอร์มเหล่านั้น และเปลี่ยนไปใช้บล็อคเชนที่ใช้ระบบพิสูจน์การเป็นเจ้าของเพื่อยืนยันธุรกรรม
Cr.คลิกที่ภาพ
ควรพิจารณาลงทุนใน NFTs
หรือไม่ ?
ถ้า NFT กระตุ้นความสนใจ แต่คุณยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการซื้อและขายบนบล็อคเชน ผู้สนใจอาจต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนลงทุน การค้นหา NFT ที่ใช้ blockchain แบบพิสูจน์การเป็นเจ้าของไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็มีโอกาสจะถูกล็อคไม่ให้เข้าร่วมโครงการยอดนิยมบางโครงการ หากไม่ยอมใช้ Ethereum blockchain
ที่สำคัญกว่านั้น ให้พิจารณาความผันผวนของ NFT มูลค่าของพวกมันสามารถแกว่งไปมาไม่ต่างอะไรกับรถไฟเหาะตีลังกา ยิ่งกว่าสกุลเงินดิจิทัล และเพราะข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้ซื้อต้องการ NFT ที่มีความพิเศษเฉพาะ ถ้าต้องการขาย คุณอาจต้องยอมรับราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าตลาด หรือรอคนที่ยอมซื้อในราคาที่คุณต้องการ
ดังนั้น ถ้ากำลังวางแผนลงทุนใน NFT อย่าลืมซื้อสิ่งที่ภูมิใจกับการได้เป็นเจ้าของ เพราะคุณอาจต้องอยู่กับมันตลอดไป ข่าวดีก็คือถ้าไม่ขาย มันก็จะไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกเลย
ที่มา
