7 พฤษภาคม 2565… สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP ย้ำว่า Caring เป็น A Must หรือเป็นสิ่งที่ “ต้อง”ทำ ไม่ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันจะสูงขึ้น หรือสภาพเศรษฐกิจมีผลกระทบท้าทายธุรกิจก็ตาม
ในการประกาศเป้าหมายใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่ม พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในไทยและต่างประเทศประกอบด้วย
“จากเป้าหมายใหม่นี้ เรื่อง Caring เป็นผลกระทบมาจาก Climate Change กระทบต่อโลกทั้งใบ การเกิดขึ้นมันไม่เหมือนโควิด-19 ที่เรากักตัวในบ้านไม่เจอใครเลย เราก็อาจจะปลอดภัย แต่เมื่อเกิด Climate Change ขึ้นมา ผลกระทบรุนแรง และกระทบทุกคนในโลกเท่ากันเลย และเริ่มนับถอยหลังในเรื่องนี้ หากเราบอกว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ขอระงับไว้ก่อน พอเศรษฐกิจดีค่อยมาทำ คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คือสิ่งที่ กลุ่มธุรกิจ TCP มุ่งมั่นจะทำแน่นอน”
สราวุฒิขยายความเพิ่มเติม กลุ่มธุรกิจ TCP ยกระดับการทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนโดยมุ่งเน้นไปยังเรื่องเร่งด่วน 3 เรื่องได้แก่
-การตั้งเป้า “เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)” จากทุกกระบวนการทำงานทั้งธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ ภายในปีพ.ศ. 2593
-การตั้งเป้า “บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน Circular Economy” พัฒนาบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจ TCP ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปีพ.ศ. 2567 จับมือกับพันธมิตรที่เป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก เพื่อสนับสนุนการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคทั้งขวดแก้ว กระป๋องอลูมิเนียม และขวดพลาสติกเข้าสู่ระบบ กลับเข้ามาสู่วงจรการรีไซเคิล
-การตั้งเป้า “Water Sustainability การจัดการน้ำยั่งยืน” คืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (Net Water Positive) ภายในปีพ.ศ. 2573 โดยมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ลดการใช้น้ำ เป็นการทำงานร่วมกับพันธมิตรและชุมชนใน 3 ประเทศ คือ ไทย จีน และเวียดนาม ที่มีโรงงานตั้งอยู่ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ทรัพยากรน้ำในพื้นที่ดังกล่าว
“สิ่งที่กลุ่มธุรกิจ TCP ทำ เพื่อให้เกิด Impact ทางบวก เกิดผลจริง ไม่ใช่สิ่งที่คิดไปเอง ต้องมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ไม่ใช่ทำแล้วมาเขียนไว้ในรีพอร์ต ทั้งนี้ภายใต้ Caring มีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่ให้คำมั่นว่าเดินหน้าต่อ” สราวุฒิกล่าวในท้ายที่สุด