12 พฤษภาคม 2565…ด้วยศักยภาพของ AIS Business สามารถสร้าง Digital Business Ecosystem เพื่อภาคธุรกิจไทยทุกขนาดในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่ง Healthcare ด้านโรงพยาบาล นับเป็นเป้าหมายที่จะร่วมสร้าง Smart Hospital จากโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีแบบครบวงจร ซึ่งมีต้นแบบที่โรงพยาบาลวิมุต ด้วย 5 โซลูชั่นตอบโจทย์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโรงพยาบาลตามแนวทาง ESG
ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และนายแพทย์สันติ เอื้อนรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวถึงความร่วมมือในการทำงานของ AIS Business และ โรงพยาบาลวิมุต ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในวงการ อุตสาหกรรม Healthcare ในการให้บริการไอซีทีแบบครบวงจร ส่งผลให้ลดเวลาในการทำงานแบบเดิม ประหยัดพลังงานหลายด้าน เข้าถึงคนจำนวนมากได้ง่าย ตรวจสอบได้ทุกกระบวนการ
“กลยุทธ์เอไอเอสคือการเป็นพาร์ทเนอร์ บางเรื่องที่เรารู้บางเรื่องที่เราไม่รู้ก็ต้องเรียนรู้พร้อมกับพาร์ทเนอร์คือโรงพยาบาลวิมุตอย่างใกล้ชิด ที่นี่คนเอไอเอสเข้ามาทำงานตั้งแต่เริ่มให้คำปรึกษา จนกระทั่งนำดิจิทัลเทคโนโลยีเต็มรูปแบบจาก AIS 5G ทั้งบริการโซลูชันแบบครบวงจร, งานบริหารจัดการระบบ ICT, การจัดการข้อมูลและศูนย์ Data Center, การสื่อสารเชื่อมต่อการทำงานด้วย Cloud Contact Center รวมถึงบริการดิจิทัลที่มาช่วยอำนวยความสะดวก และเสริมประสบการณ์ในการใช้บริการรักษาพยาบาลของคนไข้ เช่น แอปพลิเคชัน ของโรงพยาบาลที่มีบริการนัดหมายแพทย์ บริการ Telemedicine ประวัติการใช้ยา และอื่น ๆ พร้อมกันนี้โซลูชันแบบครบวงจรดังกล่าวยังเป็นการทรานส์ฟอร์มองค์กรไปพร้อม ๆ กัน”
ทั้ง 5 ดิจิทัลเทคโนโลยีข้างต้น เป็นการตอบโจทย์โรงพยาบาลวิมุต ตามที่นายแพทย์สันติ กล่าวถึงเข็มทิศของโรงพยาบาลวิมุตมุ่งไป Smart Hospital ด้วยดิจิทัล เทคโนโลยีจะต้องมี 3 ข้อคือ
1. ลดภาระบุคลากร เช่นการที่มีเอกสารจำนวนมาก หรือจะต้องเซ็นเอกสารจำนวนมาก ก็เปลี่ยนใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี
2.เพิ่มความปลอดภัยคนไข้ เช่นระบุตัวคนไข้ถูกต้อง ถูกอาการ ทำได้ง่าย มีความแม่นยำ
3.เพิ่มประสบการณ์ลูกค้า ที่มีบริการอื่น ๆ อย่างหลากหลายเข้าถึงได้ง่าย มีความเชื่อมั่นหรือมั่นใจ เข้าใช้ได้ง่ายทุกระดับ
“เราเป็นโรงพยาบาลน้องใหม่ในวงการมีอายุเพียง 1 ปี เป็นธุรกิจแรกในเครือพฤกษา ดังนั้นการทำราคาไม่สามารถจะแพงมาก หรือถูกเกินไปได้ ซึ่งดิจิทัลเทคโนโลยีจะช่วยเราได้ เรามองหา Service Provider ที่จะมาทำงานร่วมกันที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของเครือข่ายสัญญาณที่มีประสิทธิภาพ การมีโซลูชันที่ช่วยเรื่องการจัดการฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการกับระบบการทำงานภายในที่สามารถเชื่อมต่อส่วนงานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำและปลอดภัย รวมถึงการมีบริการที่ตอบโจทย์คนไข้ด้วย Omni Channel ในยุคดิจิทัลอย่างแอปพลิเคชัน ที่จะมาช่วยเรื่องการนัดหมาย การแจ้งผลตรวจ หรือแม้แต่การปรึกษาแพทย์ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งทุกคนเข้าถึงได้ง่าย”
หนึ่งใน Omni Channel ของโรงพยาบาลวิมุต โดยเบื้องหลังการทำงานคนของ AIS Business เข้ามาทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม IT ของโรงพยาบาล
นายแพทย์สันติ ขยายความต่อเนื่อง ถึงเป้าหมายการร่วมทำงานครั้งนี้คือฐานข้อมูล Omni Channel การเข้าถึงคนไข้ ผู้ป่วยได้ง่าย ซึ่งต้องผ่าน Service Provider อย่าง AIS Business เป็นตัวเชื่อมทั้งหมดในโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางจากนี้ก็ต้องดูสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล ซึ่งจะต้องร่วมกันปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่อไปในระยะยาว
ธนพงษ์ กล่าวถึงความท้าทายต่อเนื่อง ในระยะต่อไป “เรื่องที่รู้และเรื่องที่ไม่รู้” จะเป็นโอกาสมากมาย เป็นจุดเริ่มต้นในการ Co-Create และจะเกิดอิมแพคมากขึ้น เพราะฉะนั้น 1 ปีที่ผ่านมาในการมุ่งสู่ Smart Hospital นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้า Digital Journey และดิสรัปสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น
ภายใต้นวัตกรรมต้นแบบ Smart Hospital เกิดกับผู้เล่นรายใหม่อย่างโรงพยาบาลวิมุต ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี จาก AIS Business เป็นทางลัดที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครบ 3 มิติสิ่งแวดล้อมลดการใช้พลังงานและทรัพยากร มิติสังคม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างขวางเพิ่มประสบการณ์การบริการของโรงพยาบาล ส่วนมิติธรรมาภิบาล เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงมากโดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใสข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ รวมถึงความปลอดภัย มีความแม่นยำ ระบุตัวคนไข้ถูกต้อง ถูกอาการ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นวางใจกับแบรนด์น้องใหม่ในวงการ โรงพยาบาลวิมุต ต้นแบบ Smart Hospital
