30 พฤษภาคม 2565…พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act) หรือ กฎหมาย PDPA ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 AIS ตอกย้ำภารกิจคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลลูกค้า และความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูงสุดตามมาตรฐานสากล
สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า ในฐานะที่ AIS เป็นผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัลที่มีลูกค้ามากกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรตั้งแต่ระดับผู้ประกอบการ SMEs ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ หน้าที่สำคัญนอกเหนือจากการพัฒนาสินค้าและคุณภาพบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มแล้ว ยังมีภารกิจในการจัดการระบบฐานข้อมูลสารสนเทศทั้งข้อมูลจากการดำเนินธุรกิจและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและแผนความยั่งยืนด้านการปกป้องระบบสารสนเทศและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
“แนวทางการทำงานตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานับจากวันที่กฎหมาย PDPA ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่ปี 2562 เรามีการกำกับดูแล ศึกษา ปรับปรุง พัฒนาเครื่องมือและกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ต่อการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดย AIS มีการดำเนินงานตามกรอบกฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องครอบคลุมการดำเนินงาน ตั้งแต่ระดับนโยบายมาจนถึงระดับปฏิบัติการ”
จากความพร้อมต่อปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย PDPA เราจึงขอยืนยันความมั่นใจให้กับลูกค้าถึงแนวทางการทำงานที่มุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานสากล ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นของการสื่อสารไปยังลูกค้าให้รับทราบถึงความสำคัญของกฎหมาย PDPA ต่อการใช้งานบนโลกออนไลน์ รวมถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง และการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนดไว้
การดำเนินงานในครั้งนี้ AIS ได้สื่อสารแจ้งประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทั้งลูกค้าที่ใช้บริการมือถือและเน็ตบ้าน รวมถึงลูกค้าองค์กร คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ให้เข้าใจถึงระเบียบและข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัตถุประสงค์ของการเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อจำกัดในการใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล สิทธิของลูกค้าต่อข้อมูลส่วนบุคคล และช่องทางในการติดต่อกับบริษัทฯ อีกทั้งยังได้เพิ่มมาตรการเพื่อกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีการจัดลำดับชั้นความลับของข้อมูล นำเครื่องมือทางดิจิทัลเทคโนโลยีมาให้ทุกหน่วยงานในบริษัท ใช้ตรวจสอบการส่งข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยสูงสุดทั้งกระบวนการ อาทิ DLP (Data Leak Protection) และมีเครื่องมือที่ใช้เข้ารหัสข้อมูลสำคัญ เพื่อปกป้องข้อมูลสารสนเทศของการดำเนินธุรกิจและข้อมูลส่วนบุคคล
“วันนี้เราขอยืนยันความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ต่อการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทางของกฎหมาย PDPA ที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในทำงานเพื่อการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมถึงความปลอดภัยด้านไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล ด้วยการใช้ศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ตามแผนการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลของประเทศ ที่จะร่วมกันปกป้อง สร้างการรับรู้ ตลอดจนเสริมภูมิคุ้มกันด้านการใช้งานดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง เพื่อให้การเดินหน้าของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากซึ่งอุปสรรคและความเสี่ยงใดๆ” สายชล กล่าวในท้ายที่สุด