2 กรกฎาคม 2565…อาทิตย์ นันทวิทยา CEO บมจ. เอสซีบี เอกซ์ และวัลลภา ไตรโสรัส CEOและ MD บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป ร่วมกันกระดับอสังหาริมทรัพย์ไทย สานต่อพันธกิจ “Building a Better Future” ด้วยSustainable Finance
อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และ วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ร่วมกับกล่าวถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อ Sustainability Linked Loan พร้อมด้วย ESG Linked Interest Rate Swap มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็นเรื่องใหม่ของทั้งสองอุตสาหกรรม
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธุรกิจการเงินหลักของ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ และในฐานะสถาบันการเงินสำคัญของประเทศ ธนาคารตระหนักถึงบทบาทในการสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ด้วยยุทธศาสตร์ในการเป็น “ธนาคารที่ดียิ่งขึ้น” (To be a Better Bank)
“เรามุ่งเน้นพัฒนาการเงินที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Finance ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับความไว้วางใจจาก AWC ร่วมสร้างความสำเร็จในการมอบสินเชื่อ Sustainability Linked Loan พร้อมด้วย ESG Linked Interest Rate Swap มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่ได้รับสินเชื่อดังกล่าว ผมขอชื่นชมวิสัยทัศน์ผู้บริหาร AWC ทั้งทางด้านธุรกิจเห็นได้จากโครงการที่ประสบความสำเร็จ และกำลังพัฒนามากมายหลายโครงการ รวมถึงความสามารถในการดำเนินการผ่านสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างแข็งแกร่ง และทางด้านความยั่งยืนที่ได้รับรางวัลจากเวทีระดับโลก”
อาทิตย์กล่าวต่อเนื่อง ธนาคารมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของ AWC ในฐานะผู้นำอสังหาริมทรัพย์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย หวังว่ากลุ่มเอสซีบี เอกซ์ โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จะได้มีโอกาสทำงานร่วมกันกับ AWC ในโครงการต่อไปในอนาคต โดยการเป็นธนาคารที่ดียิ่งขึ้นเพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยสู่การเป็นสังคมที่ดีขึ้นได้สำเร็จตามพันธกิจ Building a Better Future ของ AWC
มาถึงพันธกิจการดำเนินธุรกิจของ AWC คือการร่วม “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” หรือ “Building a Better Future” เป็นการนำหลักการการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาผสานในทุกภาคส่วนและทุกมิติของการดำเนินงานในองค์กร เพื่อสร้างคุณค่าองค์รวมอย่างแท้จริงให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ซึ่งที่ผ่านมา AWC ได้มุ่งมั่นดำเนินงานตามหลักความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มีการดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมให้เกิดเมืองและชุมชนที่ยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจโรงแรม ได้แก่ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล เป็นโรงแรมแห่งแรกของโลกที่ได้รับรางวัล ISO 20121 มาตรฐานด้านการจัดงานอย่างยั่งยืน และโรงแรมบันยันทรี สมุย ที่ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งช่วยเคลื่อนย้ายไข่เต่าตนุ พร้อมสร้างเขตอนุบาลเพื่อป้องกันไข่จากผู้ล่าก่อนฟักตัว เป็นต้น
“เรามีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากธนาคารไทยพาณิชย์ อนุมัติวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนระยะยาวและอนุพันธ์ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน รวมทั้งการนำผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG ขององค์กรมาเป็นส่วนสำคัญในกลไกการจัดสินเชื่อยั่งยืนนี้ เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของ AWC ให้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศ”
AWC นับเป็นบริษัทแรกในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่ได้รับสินเชื่อหมุนเวียนระยะยาวและอนุพันธ์ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Sustainability Linked Loan and ESG Linked Interest Rate Swap) ซึ่งตั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืน (Sustainability Performance Targets หรือ SPTs) แบ่งเป็นการบรรลุเป้าหมายผลดัชนีความยั่งยืน MSCI ESG Rating และการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ทั้งนี้ AWC ได้กำหนดแผนกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อ “สร้างคุณค่าด้านความยั่งยืนในระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน”
“AWC มีความยินดีที่ SCB ให้การสนับสนุนและเชื่อมั่นในศักยภาพ AWC มาอย่างต่อเนื่องและพร้อมร่วมสร้างคุณค่าในระยะยาวไปด้วยกัน ซึ่งการได้รับวงเงินสินเชื่อในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการจุดประกายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจขององค์กรมาร่วมผนึกกำลังขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนไปด้วยกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล” วัลลภากล่าวในท้ายที่สุด