30 มีนาคม 2566…หลาย ๆ ครั้งถ้าคุณเป็นเหมือนผู้บริหาร ก็จะรู้สึกว่า มันยากที่จะติดตามข่าวหรือโซเชียลมีเดียเป็นประจำทุกเช้า ไม่ว่าจะเป็นสงครามในยูเครน, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ความหลากหลายทางชีวภาพที่หายไป, วิกฤตค่าครองชีพทั่วโลก, ความอดอยาก ?
โลกเผชิญกับความท้าทายยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนมากมาย และแทบไม่น่าเชื่อถือว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่มวลมนุษยชาติต้องการความกล้าหาญ และความเป็นผู้นําอย่างมาก เพื่อนําพาเราทั้งหมดผ่านช่วงเวลาที่ยากลําบากที่สุดเหล่านี้ และเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งอนาคตที่สดใส
ข้อมูลของ Edelman Trust Barometer ปี 2023 ระบุว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้น องค์กรธุรกิจได้รับความไว้วางใจมากกว่าองค์กรพัฒนาเอกชน รัฐบาล และสื่อ ว่าจะเป็นผู้ทำได้สำเร็จ นั่นหมายความว่า กรรมการบอร์ดของบริษัทต่าง ๆในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงผู้บริหารระดับสูงขององค์กรจะต้องมีความกล้าหาญ และเป็นผู้กำหนดทิศทางนั้นให้แก่โลก
ทั้งนี้ ประเด็นหนึ่งที่จะมีบทบาทสำคัญมากๆในห้องประชุมทุก ๆ แห่ง คือ เรื่องความยั่งยืน (Sustainability)
ความคิดริเริ่มของ Future Boardroom มีจุดมุ่งหมายเพื่อนําบรรดาผู้นําทางธุรกิจจากทั่วโลกมารวมกันเพื่อกําหนดการเปลี่ยนแปลงที่จําเป็นมากที่โต๊ะผู้นําของบริษัท กระตุ้นให้เกิดการอภิปรายอย่างจริงจังในการประชุมประจําปีของ World Economic Forum ในเมืองดาวอส
นี่คือ 10 ประเด็นสําคัญที่ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง เร่งด่วน
1.เป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่งที่การกํากับดูแลจะต้องถูกฝังอยู่ในหน้าที่ของธุรกิจและคณะกรรมการ เพื่อให้งานด้านความยั่งยืนไม่ใช่แค่โครงการหรือผ่านแฟชั่นที่หายไป พร้อมกับการมาถึงของซีอีโอคนใหม่
2.มีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นและผลที่ตามมาสําหรับบริษัทและคณะกรรมการเกี่ยวกับความยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้กรรมการและผู้นําธุรกิจอาวุโสจึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีระบบและการควบคุมที่เหมาะสม เพื่อให้กํากับดูแลและลดความเสี่ยงได้
3.การกํากับดูแลทีมผู้บริหารของคณะกรรมการสําคัญต่อการบูรณาการความยั่งยืนกรรมการต้องเข้าใจแนวคิดเรื่องความยั่งยืน เพื่อให้สามารถกํากับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ผู้นําควรหลีกเลี่ยงความคิดการทำแค่ขั้นต่ำ เพียงเพื่อให้บริษัทมีลําดับที่ดี เพื่อให้ประสบความสําเร็จอย่างแท้จริง บริษัทต้องมีกระบวนการศึกษา เรียนรู้ สื่อสารอย่างเปิดเผย และสม่ำเสมอกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
4.บริษัทควรตระหนักถึงการพัฒนาทางกฎหมายในเขตอํานาจศาลที่แตกต่างกัน และดําเนินการทันทีเพื่อลดความเสี่ยง
5.คณะกรรมการสามารถช่วยประเมินทักษะและความสามารถที่จําเป็นในห้องประชุมคณะกรรมการในอนาคต ระบุความท้าทายและโอกาสเชิงกลยุทธ์ การประเมินเหล่านี้ยังสามารถช่วยระบุสมาชิกคณะกรรมการที่อาจจําเป็นต้องลาออกหรือเปลี่ยนชุดทักษะ เพื่อให้คุณค่าเรื่องนี้ดำรงอยู่ต่อไป
6.การศึกษาจะมีบทบาทสําคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ห้องประชุมในอนาคต นักลงทุนให้ความสําคัญกับความรู้ของกรรมการในประเด็นความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจไม่ลงคะแนนให้กับผู้ที่ขาดข้อมูลเชิงลึกและความรู้ ดังนั้นจึงจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคณะกรรมการที่มีความรู้และทักษะด้านความยั่งยืนเป็นอย่างดี
กรรมการทั้งในปัจจุบันและอนาคตไม่ควรหยุดเรียนรู้ ต้องกล้าที่จะมีบทบาทที่แตกต่างหลากหลายในบริษัท เพื่อให้ได้รับประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติม
7.บริษัทต้องมีบุคคลที่มีความสามารถและมีสติทําหน้าที่ในคณะกรรมการที่ดูแลด้านความยั่งยืน ESG และปัญหาสภาพภูมิอากาศ หากสมาชิกคณะกรรมการสามารถทำงานทั้งเชิงรุกและรับ จะเป็นสินทรัพย์สําคัญ ในแง่ของการแซงหน้าคู่แข่ง และสร้างมูลค่าเพิ่ม
8.ESG ไม่ได้เป็นแค่เรื่องความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศเท่านั้น ยังเสนอโอกาสสร้างมูลค่าและความยั่งยืนเมื่อเวลาผ่านไปด้วย บริษัทต้องมีทีมที่ให้มุมมองได้ว่า พอร์ตโฟลิโอควรมีลักษณะอย่างไรในอนาคต: สิ่งใดต้องตัดทิ้ง และสิ่ง
ที่ต้องเพิ่ม
9.บอร์ดจําเป็นต้องเข้าใจเรื่องการดําเนินงานและความยั่งยืนอย่างดี เพื่อให้สามารถเพิ่มโอกาสและลดความเสี่ยงได้ ความยั่งยืนไม่ควรเป็นเพียงการใช้เครื่องหมายถูก แต่ควรฝังอยู่ในหน้าที่และกระบวนการทางธุรกิจที่แตกต่างกันทั้งห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่า
10.การเป็นกรรมการคณะกรรมการ ไม่ได้เป็นเพียงการจัดการกับเป้าหมายการเงินระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการเป็นผู้ดูแลการเงินของบริษัท พนักงานและผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย
เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนให้กับคณะกรรมการ ฝ่ายบุคคลต้องเข้าใจสิ่งที่คณะกรรมการกําลังมองหา สามารถคิดเชิงกลยุทธ์และเข้าใจการกํากับดูแลกิจการด้วย
นอกจากบทสรุปข้างต้นแล้ว ผู้ร่วมการเสวนา ยังตอบคำถามเกือบ 300 ข้อ ผลที่ได้น่าสนใจ
1.ความรู้ด้านความยั่งยืนสําคัญอย่างไรในการพิจารณาคัดเลือกกรรมการชุดใหม่ ?
สําคัญมาก = 49 %
สําคัญ = 32 %
ไม่สําคัญ = 13%
ไม่แน่ใจ = 7%
2. ตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในห้องประชุมคืออะไร ?
ความต้องการของนักลงทุน = 56 %
กฎระเบียบข้อบังคับของบริษัท = 26 %
ความต้องการของลูกค้า = 17 %
ความต้องการของพนักงาน = 1 %
3. ปัจจุบัน ห้องประชุมได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกํากับดูแล ESG อย่างไร ?
แต่งตั้งคณะกรรมการโดยเลือกจากชุดทักษะ = 36 %
ขอให้ CSO เข้าร่วมการประชุม = 32 %
ติดตามการฝึกอบรม ESG = 15 %
ไม่แน่ใจ = 17%
4. ความสามารถใหม่ ๆ เช่น ความรู้เรื่องภาวะโลกรวน ความหลากหลายทางชีวภาพ สิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ฯลฯ เป็นสิ่งจําเป็นสําหรับ The Future Boardroom หรือไม่ ?
ใช่ = 90 %
ไม่ = 5 %
อาจจะ = 5 %
5.การจัดการปัจจัย ESG เชิงรุกโดยสมาชิกคณะกรรมการจะเป็นสินทรัพย์สําหรับบริษัทที่จะแซงหน้าคู่แข่งขัน และเพิ่มมูลค่าหรือไม่?
ใช่ = 86 %
อาจจะ = 14 %
จากผลลัพธ์จะเห็นได้ว่า ยังมีความสับสนอยู่เกี่ยวกับเรื่องแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนที่ดีที่สุดสําหรับกรรมการบริษัท โดยการแต่งตั้งบุคคลที่มีทักษะ (36 %) และขอให้ CSO เข้าร่วมการประชุม (32 %) ใกล้เคียงกัน ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 1 ใน 5 ไม่แน่ใจ แสดงให้เห็นว่า ยังมีโอกาสมากมายสําหรับการศึกษาที่ดีขึ้นในเรื่องนี้
ด้านบวกผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (81 % = 49+32 จากข้อ 1) เห็นว่าความรู้ด้านความยั่งยืนสําคัญหรือสําคัญมากสําหรับ Future Boardroom และความสามารถใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความท้าทายข้างหน้าเป็นสิ่งที่ต้องมี
ที่มา