11 เมษายน 2566… เราจะเปลี่ยนกระแสน้ำให้สร้างพลังแก่ชุมชน ปกป้องเศรษฐกิจ และทำให้โลกน่าอยู่ได้อย่างไร ในเวลาที่ระบบเกี่ยวกับน้ำถูกคุกคามมากขึ้นจากการใช้มากเกินไป มลภาวะ และภาวะโลกรวน ผู้คนจำนวนมากยังมองไม่เห็นความเชื่อมโยงระหว่างน้ำกับความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญที่สุดนี้ไว้ เราต้องคิดใหม่ทำใหม่ว่าที่ผ่านมาให้คุณค่ากับน้ำอย่างไร แล้วจึงลงทุนตามนั้น
เมื่อรวมกับอากาศ กล่าวได้ว่า น้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติสำคัญที่สุดของโลก ระบบน้ำที่ใช้งานได้เป็นหนึ่งในเสาหลักทางเทคโนโลยีของอารยธรรม ซึ่งมักทำให้วิกฤตน้ำกลายเป็นเรื่องความเป็นหรือความตาย
ทุกวันนี้ ประชากรประมาณ 2,000 ล้านคนไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด และครึ่งหนึ่งของโลกประสบปัญหาขาดแคลนน้ำรุนแรงเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ทรัพยากรน้ำจืดที่มีอยู่อย่างจำกัดไม่สามารถแบกภาระเกินตัวจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ภายในปี 2030 ความต้องการใช้น้ำทั่วโลกจะเกินความต้องการถึง 40% เมื่อความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นและอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น การขาดแคลนน้ำจะคุกคามชีวิตและความเป็นอยู่มากขึ้น และส่งผลต่อเสถียรภาพของสังคมทั่วโลก
ที่มา คลิกภาพ
คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า เราจะเปลี่ยนกระแสน้ำให้สร้างพลังแก่ชุมชน ปกป้องเศรษฐกิจ และทำให้โลกน่าอยู่ได้อย่างไร เช่นเดียวกับสินค้าสาธารณะทั่วโลก เช่น สภาพแวดล้อมที่สะอาด มีแนวโน้มเน้นไปที่การลงทุนสิ่งที่มีในปัจจุบัน มากกว่าผลประโยชน์ระยะยาวของการลงทุนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ภาคส่วนน้ำปัจจุบันขาดแหล่งเงินทุนและขาดความสามารถในการตอบสนองความต้องการอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าต้องการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการรับประกันน้ำสะอาดและสุขอนามัยสำหรับทุกคน เราต้องเพิ่มการลงทุนเกี่ยวกับน้ำทั่วโลกในปัจจุบันอีก 4 เท่า เป็นมากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (1.21% ของ GDP โลก) ทั้งหมดนี้ เป็นการชดเชยเงิน 470,000 ล้านเหรียญสหรัฐที่สูญเสียทุกปีจากน้ำท่วม และการชลประทานที่ไม่ดี
ด้วยการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนในภาคส่วนน้ำจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต เมื่อธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรปให้เงินกู้ 200 ล้านยูโร (215 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แก่จอร์แดนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับโรงกลั่นน้ำทะเลในทะเลแดงและวางท่อส่งน้ำมันไปยังเมืองหลวง อัมมาน Zeina Toukan รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนและความร่วมมือระหว่างประเทศของประเทศบรรยายไว้ว่า โครงการเหล่านี้สำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงด้านน้ำและการพัฒนาเศรษฐกิจรอบด้าน และจำเป็นที่ทุกคนต้องนำความคิดที่คล้ายกันมาใช้ในการประเมินคุณค่าและจัดการน้ำ
ในประเทศไทย ฝายคอนกรีตเสริมเหล็กแกนดิน เพื่อกักเก็บสำรองน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขัง โดยสามารถเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้น 2 เมตร และมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 240,000 ลูกบาศก์เมตร ช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง เกษตรกรโดยรอบมีน้ำในการทำเกษตร มีแหล่งอาหารจากการทำประมงพื้นบ้าน ช่วยสร้างอาชีพ และรายได้เสริม ที่มา..คลิกภาพ
เช่นเดียวกับความท้าทายอื่น ๆ ภาครัฐไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างการลงทุนขนาดใหญ่นี้ได้โดยลำพัง องค์กรธุรกิจจะมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ จากข้อมูลของ CDP- Carbon Disclosure Project องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่รวบรวมข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมระบุว่า มูลค่าธุรกิจกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั่วโลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง หากไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ และจะต้องลงทุนราว 20 % ของจำนวนดังกล่าว คือราว 55,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจัดการกับปัญหานี้
หากธุรกิจใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อลดการใช้น้ำ และใช้ประโยชน์เปลี่ยนน้ำเสียเป็นแหล่งพลังงาน ความร้อน สารอาหาร และวัสดุ พวกเขาก็สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทำให้ผู้อื่นมีน้ำใช้ได้มากขึ้น CDP ให้ความสำคัญกับ “โอกาสที่เกี่ยวข้องกับน้ำ” มีมูลค่า 711,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงการประหยัดน้ำ และยังรวมถึงการเติบโตของตลาดที่มีศักยภาพในระยะยาวในด้านเทคโนโลยีน้ำอัจฉริยะ ประโยชน์ของความสัมพันธ์ในชุมชนที่ดีขึ้น เนื่องจากน้ำมีราคาถูกในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก ธุรกิจต่าง ๆ จึงไม่ค่อยมีแรงจูงใจลงทุนเพื่อประหยัดน้ำ หรือเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต
การโน้มน้าวให้ภาคเอกชนให้ความสำคัญกับการรักษาระบบน้ำ ประการแรก ต้องเริ่มด้วยความคิดว่าเงินที่ใช้ไปกับน้ำเป็นการลงทุนที่แท้จริง ไม่ใช่ลงทุนแบบสูญเปล่า ประการที่สอง ต้องกำหนดมูลค่าที่ถูกต้องให้กับน้ำ เพื่อสร้างแรงจูงใจที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้และธุรกิจในการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อการอนุรักษ์ที่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ในกรณีของน้ำ การดำเนินการนี้จำเป็นต้องทำให้เกิดความสมดุล ละเอียดอ่อน เนื่องจากการเข้าถึงน้ำดื่มและสุขอนามัยในราคาที่จับต้องได้ถือเป็นสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถต่อรองได้ ประการที่สาม ความร่วมมือระดับโลกและโครงการข้ามพรมแดนใหม่เพื่อระดมการลงทุนด้านน้ำมากขึ้น จะเอาชนะความล้มเหลวของตลาดและป้องกันไม่ให้น้ำกลายเป็นเรื่องการเมือง รวมถึงในทางอ้อม กลายเป็นอาวุธที่นำมาทำร้ายกัน
น้ำคือสิ่งที่จะนำพา SDGs ไปสู่เส้นชัย ในที่สุด ทุกคนต้องตระหนักว่าเป็นส่วนสำคัญของพอร์ตการลงทุน ให้ความสำคัญสูงสุดว่า เป็นแก่นของนโยบายเศรษฐกิจ
ที่มา
