19 เมษายน 2566…กลยุทธ์กรุงศรี กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจ SME ปี 2566 ยังต้องเร่งเครื่อง Educate ลูกค้าให้มีกระบวนการทำงานด้วย ESG ให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ลูกค้าโดยตรง อีกทั้งธนาคารสามารถส่งมอบผลิตเกี่ยวเนื่อง ESG ได้มากขึ้น ภายใต้ 3P ได้แก่ Portfolio, Products และ Platform
ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงคำว่า ESG เป็นแนวทางในการทำงานที่ไม่ได้คำนึงถึงกำไรสูงสุด แต่ต้องคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมาภิบาล ซึ่งบริษัทลูกค้ารายใหญ่ตระหนักถึงเรื่องนี้มาก ขณะเดียวกันลูกค้ารายใหญ่จะมี SME เป็นพันธมิตรในฐานะซัพพลายเชนจำนวนไม่น้อย โดย SME ในกลุ่มนี้ และ SME ที่ทำธุรกิจส่งออกโดยตรง จะต้องมีแนวทางการทำงานด้วย ESG เพื่อตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศที่มีความเข้มงวดในเรื่องนี้เช่น การผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การลดเลิกการใช้พลังงานจากฟอสซิล การใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น เป็นต้น
ทั้งนี้ กรุงศรีเองมีผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวข้างต้นภายใต้กลยุทธ์ ลูกค้าธุรกิจ SME ปี 2566 คือ Transformation Loan เป็นดอกเบี้ยพิเศษเช่น 2% ใน 2 ปีแรก และฟรีค่าธรรมเนียม ซึ่งการนำเสนอสินเชื่อโซล่าร์ รูฟ ของธนาคารให้กับ ลูกค้าธุรกิจ SME ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เกี่ยวโยงกับ ESG
“สำหรับเรื่อง ESG เราแบ่งลูกค้า SME 3 กลุ่มคือ กลุ่มหนึ่งไม่ทราบเรื่อง ESG มาก่อน กลุ่มสองทราบ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีธุรกิจส่งออก และทำงานกับลูกค้าขนาดใหญ่ สุดท้ายกลุ่มสามทราบ แต่ไม่คิดจะปรับเปลี่ยน เพราะมองว่ามีผลกระทบต่อระบบการทำงานหลายอย่าง ซึ่งลูกค้าธุรกิจ SME มีสัดส่วนเกินครึ่งที่ธนาคารต้อง Educate จึงเป็นที่มาของกิจกรรม Krungsri ESG Awards 2023 เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจเปิดรับและนำแนวทาง ESG ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง”
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว ทั้ง 21 บริษัทที่ได้รับการคัดเลือก กำลังอยู่ระหว่างการเปิดบ้านให้คณะกรรมการพูดคุย แนะนำในการทำธุรกิจด้วยแนวทาง ESG เพื่อการปรับเปลี่ยน ถือเป็นความสำคัญต่อ SME
ดวงกมลกล่าวในท้ายที่สุด กรุงศรียังคงตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจ SME อยู่ที่ 4% สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้
