30 พฤษภาคม 2566…คาดมีสินเชื่อรวมปีนี้ 3% ภายใต้การนำของแม่ทัพคนใหม่ บุนเซอิ โอคุโบะ ประกาศกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2566 เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจสำหรับลูกค้าที่ต้องการขยายธุรกิจสู่อาเซียนด้วยเครือข่าย MUFG เพื่อเชื่อมทุกความต้องการทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเดินหน้า ESG Finance และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพในเวทีนานาชาติ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธนาคารพันธมิตรที่กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นไว้วางใจ
บุนเซอิ โอคุโบะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปี 2566 นี้ ธนคารให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่ออาเซียน ยกระดับบริการที่ปรึกษาทางธุรกิจเพื่อเชื่อมต่อทั้งภูมิภาคอาเซียนด้วยบริการใหม่ ‘ASEAN LINK’ ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำธุรกิจ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเติบโตใน 9 ประเทศทั่วทั้งอาเซียน และต่อยอดได้ในอีกกว่า 50 ประเทศทั่วโลกผ่านเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG
ทั้งนี้ จะมีบริการด้านการทำธุรกิจในระดับภูมิภาคอาเซียนผ่านเครือข่ายที่แข็งแกร่งของกรุงศรี และ MUFG เริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษา วิเคราะห์ และสนับสนุนข้อมูลด้านการตลาด รวมถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจเพื่อการควบรวมกิจการและการขยายการลงทุนในต่างประเทศ การพัฒนาและจัดตั้งสำนักงานธุรกิจในระดับภูมิภาค การให้บริการที่ปรึกษาทางกฎหมายและภาษีอากร และการจับคู่ทางธุรกิจ เป็นต้น
“เราต่อยอดการสนับสนุนธุรกิจที่ดำเนินการตามกรอบความยั่งยืน ด้วยแนวทาง ESG เรามี Zeroboard Inc. สตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านคลาวด์เทคโนโลยีเกี่ยวกับการคำนวณและการแสดงผลลัพธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของธุรกิจและ Supply chain เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจ สีเขียวอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงทดลองในธุรกิจที่ธนาคารมองคือยานยนต์และเคมี เพราะมีซัพพลายเชนที่ใหญ่มาก อีกทั้งมุ่งเป้าหมาย ESG”
โอคุโบะกล่าวในท้ายที่สุดว่า กรุงศรีกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ คาดว่าจะมีสินเชื่อโต 3% ซึ่งจะมีกลุ่มอุสาหกรรมยานยนต์เป็นอันดับต้น ๆ ที่สนใจ ESG Finance นอกจากนี้ยังมีลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ยังไม่สามารถบอกกลุ่มได้ แต่ ESG จะทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ มากขึ้น ภายใต้บริการ ASEAN LINK