8 กันยายน 2566…สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต และบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนที่เข้าร่วมโครงการ และสมาคมที่เกี่ยวข้อง เปิดตัว “โครงการออมเบอร์ 5”
โครงการออมเบอร์ 5 มีเป้าหมายหลักในการขยายฐานผู้ลงทุนหน้าใหม่โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน ให้มีความพร้อม มีวินัยการออมเพื่ออนาคตผ่านการลงทุนในกองทุนรวมแบบ Dollar Cost Average (DCA: การลงทุนสม่ำเสมอ แบบถัวเฉลี่ยต้นทุน) โดยประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมโครงการด้วยการเปิดบัญชีกองทุนรวม เริ่มลงทุนสะสมจนครบ 5,000 บาท และร่วมสร้างแผนการลงทุนในกองทุนรวมแบบสม่ำเสมอรายเดือน (DCA) ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 500 บาท ซึ่งเมื่อลงทุนต่อเนื่องครบ 12 เดือน จะได้รับของสมนาคุณพิเศษเพื่อสนับสนุนการออมเพิ่มเติมมูลค่า 500 บาท โดยภาคธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 22 แห่ง บริษัทหลักทรัพย์ 14 แห่ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน 2 แห่ง ธนาคารพาณิชย์ 7 แห่ง และบริษัทประกันชีวิต 4 แห่ง
กองทุนรวมเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับคนไทยในการออมและการลงทุนเพื่ออนาคต อย่างไรก็ดีพบว่าจำนวนผู้ลงทุนบุคคลในกองทุนรวมมีจำนวนเพียง 1.7 ล้านคนในปี 2565 ถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของประเทศ ดังนั้น สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) จึงได้ริเริ่มโครงการด้วยหลักคิดเรื่องความเพียงพอของเงินออมของคนไทย โดยออกแบบเครื่องมือลงทุนในกองทุนรวมที่ไม่ซับซ้อนเข้าถึงง่าย ด้วย Key Message “ออมเงินแบบคนมีความสุขต้อง “555” กับโครงการออมเบอร์ 5 ที่มาพร้อมกับกระบวนการง่ายๆ เพื่อให้การลงทุนประสบผลสำเร็จ ได้แก่ การตัดสินใจเพื่อเริ่มต้นออมและลงทุนที่ไม่ยากด้วยยอดเงินเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไปนัก การเปิดบัญชีกองทุนรวมที่ไม่เสียเวลาอย่างที่เคยคิด การสร้างวินัยจากการออมที่จะพาไปสู่เป้าหมายในระยะยาวและการส่งเสริมกำลังใจและของสมนาคุณเมื่อมีวินัยลงทุนครบตามเงื่อนไข
ทั้งนี้ ถ้าโครงการบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย คาดว่าจะได้ผู้ลงทุนหน้าใหม่รวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย โดยจะเป็นผู้ลงทุนที่มีคุณภาพ มีวินัยการลงทุนที่ดี ซึ่งจะเป็นฐานผู้ออมใหม่ที่มีคุณภาพในระยะยาวต่อไป