NEXT GEN

ความยั่งยืนในการโฆษณา:จะสิ้นเปลืองน้อยลง และเติบโตมากขึ้นได้อย่างไร

5-6 พฤศจิกายน 2566…ความยั่งยืนด้านการตลาดถือเป็นหัวข้อที่อยู่ในความสนใจตลอดปี แบรนด์ เอเจนซี่ และนักการตลาดทุกคนล้วนคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสิ่งที่อุตสาหกรรมกำลังสร้างผลกระทบ

การวิจัยล่าสุดของ Kantar แสดงให้เห็นว่า 90 % ของนักการตลาดเชื่อว่า ต้องมุ่งมั่นกับวาระด้านความยั่งยืนมากขึ้น

94 % ระบุว่า นักการตลาดต้องลงมือทำจริงจังมากขึ้น และทดลองเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

คิดก็เรื่องหนึ่ง ลงมือทำจริงเป็นอีกเรื่อง แตกต่างโดยสิ้นเชิง

ข้อมูลระบุว่า 40% ของนักการตลาด เพิ่งเข้าสู่ก้าวแรกของการพัฒนาแนวทางปฏิบัติทางการตลาดที่ยั่งยืน ทำให้นี่เป็นช่วงเวลาท้าทาย เป็นเรื่องง่ายที่ความยั่งยืนจะอยู่ลำดับท้ายๆ เมื่อคิดถึงการจัดลำดับความสำคัญ

ปัจจุบัน Landscape สื่อค่อนข้างกระจัดกระจาย ผู้ชมเปลี่ยนจากช่องหนึ่งไปอีกช่องหนึ่งแบบไดนามิกตลอดทั้งวัน การมีช่องทางมากขึ้นหมายถึงมีโอกาสมากขึ้นในการส่งข้อความ ขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสี่ยงที่ข้อความจะพลาดเป้าหมายที่ตั้งใจไว้โดยสิ้นเชิงด้วย

เมื่อโฆษณาไม่แสดงผล ไม่เพียงแค่เปลืองงบประมาณเท่านั้น โฆษณาดิจิทัลที่ไม่มีใครสังเกตเห็นทำให้ Landscape มีขนาดใหญ่เกินจริง ใช้ทรัพยากรมูลค่าสูง เปลืองความจุเซิร์ฟเวอร์ ที่สำคัญ คือ ขนาดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของธุรกิจเพิ่มขึ้น

การปล่อย COจากการโฆษณาออนไลน์เพียงอย่างเดียวคิดเป็นสัดส่วนถึง 10 % ของโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของอินเทอร์เน็ต คูณการสูญเสียนั้นด้วยการแยกตัวประกอบในการสื่อสารทั้งหมดที่ธุรกิจทั่วไปสร้างขึ้น นอกเหนือจากการโฆษณา และเห็นได้ชัดว่ามีปัญหาสำคัญอยู่

ผลกระทบความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของ Landscape สื่อ มี 2 เรื่อง 1. มีช่องทางหลากหลาย และ 2. มีเครื่องมือการตลาดและโซลูชันมากมายที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคในระบบนิเวศที่พัฒนารวดเร็ว

ปัจจุบัน นักการตลาดแบรนด์กำลังต่อสู้กับความท้าทายในการนำทางระบบต่างๆ ที่แตกต่างกัน โดยเฉลี่ยแล้ว พวกเขาสลับแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน 6 แพลตฟอร์ม ซึ่งส่วนใหญ่ขาดการบูรณาการ และความเข้ากันได้ การกระจายตัวนี้ไม่เพียงแต่ขัดขวางประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังขัดขวางกลยุทธ์การจัดการของเสียที่มีประสิทธิผลอีกด้วย

เมื่อมีแพลตฟอร์มเกิดมากขึ้นเท่าใด ระดับของเสียก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ภาพที่เกิดขึ้น คือ ความซับซ้อนมากขึ้น การแข่งขันมากขึ้น กดดันมากขึ้น ปล่อยมลพิษมากขึ้น สิ้นเปลืองมากขึ้น

คำถามคือ แบรนด์ต่างๆ จะทำเรื่องความยั่งยืนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร ขณะที่ต้องตามภูมิทัศน์ของสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปให้ทัน ?

ทุกๆ ปี ขยะดิจิทัลจากโฆษณาที่มองไม่เห็นปล่อยก๊าซคาร์บอนมากเท่ากับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าการแก้ไขความเสียหายที่การโฆษณาดิจิทัลทำต่อสิ่งแวดล้อมสำคัญเพียงใด ด้วยความรู้นี้ แบรนด์และนักการตลาดจึงมีความรับผิดชอบในการจัดการกับปัญหานี้โดยตรง

เพื่อปิดช่องว่างนี้ อุตสาหกรรมจำเป็นต้องร่วมมือทำงานเชิงรุก

ธุรกิจมีพันธมิตร ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หน่วยงาน ตลาด แผนกต่างๆ มากมาย พวกเขาสามารถพัฒนาหรือต่อยอดไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเหตุนี้ องค์กรหลายแห่งจึงมีภาระผูกพันมากเกินไปกับระบบและกระบวนการที่ซ้ำซ้อน

แนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ที่มี แทนที่จะเอาแต่เพิ่มสิ่งต่าง ๆ ลงไป แค่เพื่อให้รู้สึกว่ากำลังตามทัน หากทำอย่างนั้น เมื่อพูดถึงทั้งประสิทธิผลและความยั่งยืน ผลรับยิ่งน้อยมาก

การศึกษาล่าสุดซึ่งดำเนินการโดย Forrester Consulting เผยว่า การนำแนวทางข้างต้นไปใช้ หากทำได้อย่างมีประสิทธิผลภายในระบบนิเวศทางการตลาดของบริษัท จะนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวก เมื่อใช้เครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

59 % ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่ารายได้เพิ่มขึ้น
48% รายงานว่าใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กล่าวโดยสรุป แบรนด์ควรเน้นกลยุทธ์แบบองค์รวมที่รวบรวมเนื้อหา โฆษณา และผู้ชมเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบเหล่านี้ช่วยลดการสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโดยรวม แนวทางเชิงกลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยปรับปรุงความพยายาม และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้กับนักการตลาดอีกด้วย

แน่นอนว่า ความยั่งยืนจะเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงไปอีกนาน แต่ต้องแข่งกับเวลาด้วย โลกนี้ขึ้นอยู่กับตัวเลือกของธุรกิจที่ทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ต่างๆ จึงต้องมั่นใจว่า เทคโนโลยีของตนทำให้การตลาดได้ผล ทั้งสำหรับตัวเอง ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

ที่มา

 

You Might Also Like