23 มกราคม 2568 …ประเทศไทยได้จัดงาน “วันสมรสเท่าเทียม” (Marriage Equality Day) ครั้งแรก ณ พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเฉลิมฉลองการรับรองสิทธิสมรสของคู่รักเพศเดียวกันอย่างเป็นทางการ งานนี้จัดขึ้นโดย นฤมิตไพรด์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กรุงเทพมหานคร กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม ได้นำขบวนพาเหรดพร้อมกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมถึงบุคคลสำคัญ ศิลปิน และนักเคลื่อนไหวชื่อดัง อาทิ อิงฟ้า วราหะ และ ชาล็อต ออสติน มาร่วมสร้างสีสันในงาน
วาดดาว อรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด กล่าวว่า
“วันนี้เป็นมากกว่างานเฉลิมฉลอง แต่เป็นเสียงสะท้อนถึงความยุติธรรมและศักดิ์ศรีที่ชุมชน LGBTQIAN+ สมควรได้รับ สิทธิในการสมรสเท่าเทียมไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่ยังเป็นเรื่องของความเสมอภาคทางกฎหมายและสังคม งานนี้เป็นก้าวสำคัญของเราในประวัติศาสตร์”
กิจกรรมในงานประกอบด้วย 3 ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่:
1.สมรสเท่าเทียม: การจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ครั้งใหญ่ พร้อมขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่
2.อัตลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ: การเดินพรมแดงที่สะท้อนตัวตนและความรักบน Pride Carpet
3.ฉลองสมรสเท่าเทียม: มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง เช่น มิ้นท์ มิณฑิตา, ซิลวี่ ภาวิดา, และ ซิน ทศพร
ในงานมีคู่รัก LGBTQIAN+ จดทะเบียนสมรสกว่า 300 คู่ ณ พารากอน ฮอลล์ และทั่วประเทศรวมกว่า 1,448 คู่ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของโลกและอยู่ระหว่างการยื่นบันทึกสถิติกับ Guinness World Records
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรผ่าน Video Conference ว่า “วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางสังคมและความเสมอภาคของไทย”
สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า
“การสมรสเท่าเทียมช่วยสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งความเท่าเทียมระดับโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”
งานMarriage Equality Day สะท้อนการมีสิทธิในการสมรสที่เท่าเทียม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของความรักระหว่างบุคคลเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสิทธิทางกฎหมาย และการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมอย่างเป็นธรรม สัญลักษณ์ของการต่อสู้อย่างความเท่าเทียมไม่ได้เป็นเพียงสิทธิของบางคน แต่คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน งานวันนี้ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง แต่คือเสียงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เราชุมชน LGBTQIAN+ ทุกคนสมควรได้รับ เรายังเชื่อมั่นในความยุติธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
