25 มกราคม 2568…เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC เดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจปิโตรเคมี เพิ่มศักยภาพการแข่งขันอย่างก้าวกระโดด นำก๊าซอีเทนมาเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตของโรงงานลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals –LSP) ประเทศเวียดนาม ช่วยลดต้นทุนการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดหาวัตถุดิบ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCGC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาระยะยาวกับ Enterprise Products Partners ผู้จัดหาก๊าซอีเทนชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา สำหรับจัดหาวัตถุดิบก๊าซอีเทนจำนวนประมาณ 1 ล้านตันต่อปี เป็นระยะเวลา 15 ปี เพื่อเสริมศักยภาพโรงงานลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (LSP) ในเวียดนาม
นอกจากนี้ SCGC ยังได้ลงนามในสัญญาระยะยาวกับ Mitsui O.S.K. Lines (MOL) ผู้ให้บริการขนส่งระดับโลก สำหรับการเช่าเรือขนส่งก๊าซอีเทนขนาดใหญ่ (Very Large Ethane Carriers: VLECs) จำนวน 3 ลำ เพื่อการขนส่งก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาไปยังโรงงาน LSP เป็นเวลา 15 ปี โดยมีแผนเพิ่มเรือขนส่งอีก 2 ลำในอนาคต
“การลงนามในสัญญาเหล่านี้ช่วยเสริมศักยภาพการผลิตของโรงงาน LSP และลดต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง ESG ของ SCGC”
โรงงาน LSP ซึ่งเป็นโครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเวียดนาม มีเป้าหมายผลิตพอลิเมอร์คุณภาพสูงสำหรับป้อนตลาดในประเทศและส่งออก โดยการพัฒนาโครงการ LSPE จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของโรงงานให้สามารถใช้ก๊าซอีเทนได้ถึงสองในสามของปริมาณวัตถุดิบทั้งหมด และส่วนที่เหลือจะเป็นก๊าซโพรเพนและแนฟทา
SCGC มั่นใจว่าโครงการนี้จะเสร็จสิ้นภายในปี 2570 พร้อมรับการฟื้นตัวของตลาดปิโตรเคมีในภูมิภาค และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ LSP เป็นฐานการผลิตปิโตรเคมีที่สำคัญระดับภูมิภาคในระยะยาว