NEXT GEN

SMEs “คู่ธุรกิจ” อัปเลเวล “ความกรีน” ใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC

3 เมษายน 2568… CPAC มุ่งขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำด้วย EV Mixer Truck ประเดิม Business Partner ซีแพคทับสะแก แฟรนไชส์รายแรก ชูแนวทางบริหารต้นทุน และลดโลกร้อน

ยุทธนา แสงบรรจง ผู้บริหารโรงงานซีแพคแฟรนไชส์ทับสะแก บริษัท ว.บัญชา คอนสตรัคชั่น จำกัด กล่าวถึงบริษัทตัดสินใจมาใช้ CPAC EV Mixer Truck จำนวน 1 คัน เมื่อเห็นถึงความคุ้มค่าทางต้นทุน จึงขยายจำนวนเพิ่มเป็น 3 คัน

“หากเปรียบเทียบกับการใช้รถโม่เครื่องยนต์สันดาปต้องเติมน้ำมัน 30,000 บาท/เดือน/คัน ขณะที่รถโม่พลังงานไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายเป็นค่าไฟอยู่ที่ 8,000 – 9,000 บาท/เดือน/คัน เราคำนวณจากค่าไฟหน่วยละ 3 บาท ใช้เวลาคืนทุนเพียง 2 ปี รวมถึงประสิทธิภาพของรถที่เงียบไม่มีเสียงรบกวน คายคอนกรีตและหนีหล่มได้ดีกว่าเครื่องยนต์สันดาป และยังคงรักษาคุณภาพคอนกรีตส่งให้ลูกค้าได้ดีเหมือนเดิม พร้อมมองว่าเมื่อเราเป็นผู้จัดส่งคอนกรีตคาร์บอนต่ำ CPAC อยู่แล้ว การนำรถโม่พลังงานไฟฟ้ามาใช้ร่วมด้วยนับเป็นก้าวสำคัญสู่ Green Logistics เพราะรถโม่พลังงานไฟฟ้าคืออนาคตของพวกเรา”

ยุทธนา กล่าวต่อเนื่อง การเลือกใช้คอนกรีตคาร์บอนต่ำจาก CPAC ควบคู่กับรถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck ถือเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาด

 

“เพราะเรามีต้นทุนการจัดส่งคอนกรีตที่ถูกลงทำให้สามารถปรับลดราคาการขนส่งลงได้ นับว่าตอบโจทย์กับเราอย่างครอบคลุมทุกมิติ ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย ลดมลพิษทางอากาศ เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพ และการเลือกเปลี่ยนมาใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ เป็นการปูทางไปสู่การขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานสะอาด เดินหน้าร่วม Go Green ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และสร้างความยั่งยืนเคียงคู่ไปกับเป้าหมายของ CPAC ให้สำเร็จ” ยุทธนากล่าว

 

ถิรวัฒน์ พูนกาญจนะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด หรือ CPAC อธิบายเพิ่มเติม “โรงงานซีแพคแฟรนไชส์ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์” โดย “บริษัท ว.บัญชา คอนสตรัคชั่น จำกัด” คู่ธุรกิจ ได้นำร่องใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck เป็นรายแรก ในการจัดส่งคอนกรีตให้ลูกค้า ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “เปลี่ยน” เพื่ออนาคต ด้วยการบริหารการลดต้นทุนเชื้อเพลิง และตระหนักถึงการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

ถิรวัฒน์

“ในฐานะของ CPAC มีความรู้สึกยินดีที่คู่ธุรกิจแฟรนไชส์มองเป้าหมายเดียวกัน คือการเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยการใส่ใจต่อสินค้า และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการขนส่ง และการเลือกใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้าที่มีระบบการขับเคลื่อนที่เงียบ ช่วยลดมลพิษ ไม่ได้มีข้อดีแค่ผู้ประกอบการและโลกเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นด้วย”

ถิรวัฒน์ กล่าวในท้ายที่สุดถึงการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ นับเป็นจัดส่งคอนกรีตตามแนวทาง Green Logistics เพิ่มประสิทธิภาพขนส่ง ประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิง และสามารถบริหารต้นทุนได้ดีกว่ารถโม่เครื่องยนต์สันดาปเดินหน้าสู่การรักษ์โลกอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ The 1st Mover Low Carbon Concrete Business ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

 

You Might Also Like