25 สิงหาคม 2563…Sustainability หรือความยั่งยืน ได้กลายเป็นอาชีพ และมีสตรีก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้า มีข้อมูลระบุว่า 58% ของผู้บริหารด้านความยั่งยืนในองค์กรขนาดใหญ่เป็นสตรี และ Heather Clancy บรรณาธิการบริหารของ GreenBiz ทําการจัดอันดับสตรี 25 คนผู้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์กร
ช่วงการทำ webcast ของ GreenBiz หลายสัปดาห์ก่อน สตรีผู้ทำเรื่องความยั่งยืน เปลี่ยนจากการเริ่มต้นไปเป็นความสุดยอด โดย 3 ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน นั่งลงพูดคุยกันถึง 3 จังหวะก้าวที่แตกต่างกันของอาชีพของพวกเธอ ทักษะที่คนอื่น ๆ จำเป็นต้องมี และอนาคตของอุตสาหกรรม
ค้นหาเส้นทางสู่โลกแห่งความยั่งยืน
มีหลายวิธีในการเข้าสู่เส้นทางอาชีพเกี่ยวกับความยั่งยืน Ezgi Barcenas รองประธานฝ่ายความยั่งยืนระดับ Global ที่ Anheuser-Busch InBev เริ่มต้นการทำงานโดยเรียนจบปริญญาด้านวิศวกรรมก่อนย้ายไปทำงานภาครัฐ เมื่อเปลี่ยนไปทำงานภาคเอกชนอีกครั้ง เธอก็เลือกทำงานกับอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมสูง ซึ่งเธอสามารถใช้ทักษะจากการเคยทํางานกับภาครัฐมาแล้ว เธอเคยเป็นหัวหน้างานที่ AB InBev ถึง 7 ปี
“เราน่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายของผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนที่พบตัวเองในอาชีพความยั่งยืนโดยไม่มีปริญญาความยั่งยืน” Barcenas กล่าว
ราวกับว่าช่วยเน้นเรื่องเปลี่ยน Landscape สำหรับ Taylor Price ผู้จัดการระดับ Global ด้านความยั่งยืนที่ AptarGroup และเป็นผู้ร่วมสัมมนาอายุน้อยที่สุด เธอจบปริญญาโท สาขาการจัดการสิ่งแวดล้อมจาก Duke University’s Nicholas School of the Environment
Price ยังกล่าวถึงการเข้าคอร์สเพิ่มความรู้ที่ Duke เพราะเป้าหมายของเธอคือการเข้าสู่สภาพแวดล้อมขององค์กรที่โลกเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และเธอคิดว่า ตัวเองอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบมากขึ้นทันทีได้ดีกว่าทำงานกับภาครัฐบาล ซึ่งผู้ร่วมสนทนาต่างก็เห็นด้วยว่าคุณไม่จําเป็นต้องมีปริญญาเฉพาะทาง หากต้องการทำเรื่องดีๆให้เกิดขึ้นสำหรับโลกของความยั่งยืน
“มันเป็นเรื่องการสร้างทักษะ และการมี Skillet ที่ช่วยให้คุณสามารถเอาชนะความท้าทาย และแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการทํางานร่วมกัน และความเป็นผู้นําได้” Eunice Heath Corporate Director ด้านความยั่งยืนที่ดาว เคมิคอลกล่าว
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจากภายใน
แน่นอนว่า เมื่อสตรีได้รับเป็นบทบาทเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน เธอต้องมาพร้อมแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะหยิบยกประเด็นที่จะทำและแก้ปัญหา Heath ต้องการให้สตรีใช้พลังของพวกเธอต่อสู้กับปัญหาในอุตสาหกรรม เธอท้าทายผู้ชายให้ก้าวออกจาก Comfort Zone โดยเข้าประชุมหรือให้คําแนะนำกับที่ ๆ มีแต่สตรี
“ไม่มีอะไรที่จะดีกว่าการที่มีพันธมิตรเป็นผู้ชายที่เข้าใจสิ่งที่ผู้หญิงทำทุก ๆ วัน” Heath กล่าว
ผู้ร่วมสนทนาทุกคนคุยเรื่องความหลากหลาย และโปรแกรมแบบไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ความพยายามและชุมชนที่องค์กรส่งเสริม. Price ตั้งใจเแบ่งปันเรื่องราวภายในองค์กร ขณะที่ Heath เน้นความสําคัญของแผนปฏิบัติการและโปรแกรมเชิงกลยุทธ์ ที่สอดคล้องไปกับเรื่องราวโดยเน้นเรื่องความอยุติธรรมเกี่ยวกับผิวสี ไม่เพียงเฉพาะในประเทศ แต่เป็นเรื่อง Global
“เราเข้าใจมานานแล้วว่า บรรดาสตรีทําได้ดีแล้วในองค์กรของเรา ขณะเดียวกัน ตัวองค์กรกลับทําคะแนนได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อมองถึงความก้าวหน้าของงานที่บรรดาสตรีทำเกี่ยวกับความยั่งยืน” Price กล่าว
ผลกระทบต่ออนาคต
ขณะอยู่ในอุตสาหกรรม สตรีแต่ละคนเน้นบทบาทของเธอในฐานะ Change Agent ในความเห็นของ Price ความยั่งยืนจำเป็นต้องได้รับความเห็นที่หลากหลาย จากผู้คนที่มีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย ซึ่งทํางานภายใต้เป้าหมายเดียวกันที่ว่า อยากให้โลกนี้ดีกว่าเดิม และทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ประสบการณ์ของเธอในฐานะสตรี Millennial ผิวดํา กลายเป็นจุดแข็งสำหรับอุตสาหกรรมความยั่งยืน Barcenas ยังช่วยย้ำว่า วิธีคิดที่แต่ละคนมี จะส่งเสริมให้บรรดาสตรีเอาชนะความไม่มั่นคงที่อาจจะมีขึ้น
“ทำตัวเป็นเหมือนน้ำยังไม่เต็มแก้ว ยกมือขึ้น พร้อมรับสิ่งใหม่ เพราะมีเพื่อนใหม่มากมายช่วยเราอยู่” Barcenas กล่าว
Heath เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งของผู้เชี่ยวชาญด้าน Sustainability ด้วยประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาแล้วถึง 25 ปี เธอเป็นตัวแทนของสำนักผู้บริหารของบริษัทดาว เคมิคอล ซึ่งทำงานร่วมกับ National Society of Black Engineers’ Summer Engineering Experience ในโครงการสําหรับเด็ก รวมทั้งเป็น Ambassador สําหรับบริษัทให้แก่ Historical Black Colleges และมหาวิทยาลัย ซึ่งจะทำงานด้านความยั่งยืนของเธอร่วมกับนักเรียนที่มีความหลากหลายของภูมิหลังทางเศรษฐกิจและเชื้อชาติ
“เป้าหมายของดิฉันคือ ไม่ว่าจะเป็นเด็กชายหรือหญิง พวกเขาสามารถมีอาชีพอย่างที่พวกเรามีได้ ที่สำคัญคือ พวกเขาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นเดียวกัน” Heath กล่าวในท้ายที่สุด
ที่มา