6-7 กันยายน 2563…สะท้อนการออกแบบและบริหารจัดการอาคารที่ใส่ใจต่อสุขภาวะของพนักงานและผู้ใช้อาคาร นับเป็นอาคารระดับ 3 ดาวแห่งแรกในเอเชีย และเป็นแห่งแรกนอกทวีปอเมริกา สะท้อน ESG ขับเคลื่อนความยั่งยืนตั้งแต่นโยบายสู่การปฏิบัติจริงในทุกกระบวนการ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”
กีรติ โกสีย์เจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รับมองรางวัล fitwel จากวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ซึ่งอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับรองมาตรฐาน fitwel Version 2.1 – ระดับ 3 ดาว หมวด Single-Tenant Building (อาคารที่เจ้าของโครงการดูแลพื้นที่ทั้ง 100%) ถือเป็นรางวัลด้านการบริหารจัดการอาคารระดับโลกในระดับสูงสุด 3 ดาว ด้วยคะแนนสูงสุดของทั่วโลกในการประเมินรอบปี 2019
“การรับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนถึงการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญกับการสร้าง Inclusive well-being หรือการเติบโตไปพร้อมกันทุกภาคส่วนอย่างสมดุลและยั่งยืน พื้นที่ของอาคารมีผู้เข้ามาใช้งาน 7 แสนคนต่อปี มีทั้งนักลงทุน ผู้บริหาร ประชาชนทั่วไปนอกเหนือจากพนักงาน โดยการรับรางวัลครั้งแรกของเอเชียครั้งนี้ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับคะแนนประเมินสูงในทุกมิติคือ 125 คะแนน ซึ่งโดดเด่นในหลายด้าน เช่น การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนโดยรอบ และการสร้างสุขภาวะที่ดีในพื้นที่ใช้งาน และอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้รับการรับรองอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล LEED EBOM คะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของไทยอีกด้วย ซึ่งตอกย้ำความเป็นองค์กรที่ใส่ใจทั้งคนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่แท้จริงของตลาดหลักทรัพย์ฯ” กีรติกล่าวเพิ่มเติม
fitwel ริเริ่มโดยกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) และดำเนินการโดย Center for Active Design (CfAD) ซึ่งเป็นองค์กรตรวจประเมินและจัดอันดับอาคารเพื่อคุณภาพชีวิตผู้ใช้งาน พิจารณามิติด้านการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้งาน ใน 7 ด้าน
ธาดา เพ็ญชีพ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารทรัพยากร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วยขยายความสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯทำทั้ง 7 ด้านคือ
1. การส่งเสริมกิจกรรมเชิงกายภาพ (Physical Activity) เป็นการส่งเสริมกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่นการมีฟิตเนสเซ็นเตอร์ให้กับพนักงาน ซึ่งช่วงแรกก็เป็นพื้นที่ไม่ใหญ่นัก แต่ได้ขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นอีกเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีชมรมบาสเกตบอล ชมรมแบดมินตัน ชมรมวิ่ง คลาสโยคะ
2. ผู้ใช้งานมีความปลอดภัยจากการใช้อาคาร (Promote Occupant Safety) ผู้มาใช้อาคารควรจะได้รับความปลอดภัยทั้งจากการรักษาความปลอดภัย ด้านอาชญากรรม หรือปลอดภัยจากการติดเชื้อเช่นโควิด-19 ปรับปรุงอาคารให้มีแสงสว่างที่เหมาะสมทั้งในอาคารและรอบ ๆ อาคาร
3. ลดอัตราการป่วยและขาดงานจากปัญหาสุขภาพ (Reduce Morbidity and Absenteeism) ดูแลคุณภาพอากกาศ คุณภาพน้ำดื่มให้เป็นไปตามกรมอนามัยโลก
4. เป็นมิตรต่อการใช้งานของคนทุกกลุ่ม (Support Social Equity) เช่นการดีไซน์พื้นที่เพื่อช่วยคนพิการเข้าออกอาคารโดยไม่ต้องมีคนช่วยเหลือ รวมถึงคุณแม่ที่กำลังท้องก็ได้ใช้พื้นที่อย่างสะดวก
5. สร้างสุขภาวะที่ดีในพื้นที่ใช้งาน (Instill Feelings of Wellbeing) มีการแยกระบบการใช้งานที่อาจจะมีความเสี่ยงในการปนเปื้อน เช่นในอาคารสำนักงานมีเครื่องพรินเตอร์ ก๊อปปี้ จะแยกส่วนเป็นห้องต่างหาก ไม่ปนพื้นที่สำนักงาน หลีกเลี่ยง Toxic จากฝุ่นหมึกพิมพ์
6. เสริมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนโดยรอบ (Impact Surrounding Community Health) ตลาดหลักทรัพย์ฯมีห้องสมุดมารวย มีศูนย์การเรียนรู้ Investory มีร้านกาแฟ Settrade มีโรงอาหาร และเป็นครั้งคราวที่มีฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต มีพืชผักที่ปลอดสารพิษมาขายเป็นระยะๆ ที่หน้าโรงอาหาร รวมถึงพืชผักกินได้ก็ปลูกบนอาคารเมื่อได้ผลผลิตก็นำลงมาขาย
7. มีทางเลือกอาหารเพื่อสุขภาพ (Provide Healthy Food Options) บางครั้งทำงานเลยเวลาพักเที่ยง หิวไม่มีอะไรขายก็มีเครื่องกดอาหารเป็นที่พึ่ง
“ตั้งแต่โควิด-19 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับตัวด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับสุขภาพทำความสะอาดมากขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ปรับปรุงสภาพอากาศตามมาตรฐานยุโรป ใช้ระบบกรองอากาศถึง 2 ชั้น ทำให้ค่าPM 2.5 ต่ำมาก ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นการปรับปรุงอาคารและตรงกับเกณฑ์ใหม่ fitwel ปี 2019 Version 2.1” ธาดาขยายความ
วชิระชัย กล่าวในท้ายที่สุดว่า เอสซีจีได้เริ่มนำ fitwel มาบุกเบิกในประเทศไทย และทำหน้าที่ในฐานะ Asia’s Advisory Council เป็นรายแรกในไทย ร่วมกับ 30 องค์กรทั่วเอเชีย บริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนในการให้คำปรึกษา จนอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯได้รับรองมาตรฐาน fitwel Version 2.1 – ระดับ 3 ดาว และยังส่งผลให้เอสซีจี ได้รับรางวัล Best in Building Health 2020 จาก Center for Active Design (CfAD) ซึ่งเป็นผู้ออกมาตรฐาน fitwel นี้ด้วย